ตอนที่
21 อ้ายลาว
ช่วงที่สำนักงานของผมไปเปิดสาขาที่จังหวัดเลย ผมในฐานนะพนักงานเก่าแก่ ก็ได้มีโอกาสไปร่วมจัดระบบ ต่าง ๆ ให้เข้ารูปเข้ารอย โดยบริษัทได้เช่าอพาร์ตเมนท์ให้อยู่และผมก็อยู่คนเดียว ตอนกลางคืนผมก็ออกจากที่พักไปตามทางที่ผมชอบอยู่แล้ว แต่แทนที่ผมจะท่องเทียวไปตามสถานบันเทิงต่าง ๆ เหมือนผู้ชายทั่ว ๆ ไป ผมกลับจ้างสามล้อให้พาตระเวนไปตามซอกซอยต่าง ๆ และผมก็ได้สถานที่คิดว่าเหมาะที่สุด และคิดว่าไม่วันนี้ก็วันหน้า สิ่งดี ๆ ต้องเกิดขึ้นกับตัวผมอย่างแน่นอน ที่ ๆ ผมว่านี้ เป็นศาลาริมทางอยู่ข้างโรงเรียนแห่งหนึ่ง และที่ตรงนี้ก็ได้รับความสว่างจากหลอดไฟข้างทาง ซึ่งก็ไม่ได้สว่างมากมายนัก เรียกได้ว่า เหมาะที่จะทำอะไรลับ ๆ ล่อ ๆ ได้อย่างสบาย ผมบอกให้คนขับสามล้อจอด และก็เข้าไปนั่งเล่นข้างในศาลา สายตาก็สอดส่ายหาเหยื่อไปเรื่อย ๆ และผมก็ได้เห็นว่าฝั่งตรงกันข้าม เยื้องไปประมาณร้อยเมตร เป็นโรงพยาบาล ผมนึกอยากให้มีผู้ชายที่มาเฝ้าไข้มานั่งเล่นแถวนี้บ้าง อย่างอื่นค่อยว่ากันอีกทีหนึ่ง ผมนั่งอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง ความหวังของผมก็ดูเหมือนจะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา เมื่อผมเห็นผู้ชายสองคนเดินข้ามถนนมุ่งตรงมาทางศาลาที่ผมนั่งอยู่ ผมจึงล้มตัวลงนอนและแกล้งหลับ พอทั้งคู่เดินเข้ามาในศาลา ผมจึงหรี่ตาขึ้นมองและคิดว่าความสว่างอันน้อยนิด คงจะไม่ทำให้พวกเขาสังเกตได้ว่าผมกำลังให้ความสนใจพวกเขาอยู่ และผมก็ได้เห็นว่า อาคันตุกะที่เข้ามาเยือน เป็นชายต่างวัยกัน คนที่สูงวัยกว่า อายุคงไม่เกินสามสิบห้า หรือสี่สิบต้น ๆ ส่วนคนที่อายุน้อยกว่าอายุก็ไม่น่าจะเกินยี่สิบปี เขาทั้งสองนั่งลงที่ม้ายาวฝั่งตรงข้ามผม ค่อนไปทางปลายเท้าของผม จึงทำให้ผมมองเห็นเขาทั้งคู่ได้ค่อนข้างชัดเจน
“ฮ้อนจังเนาะ ผ่อ” คนที่อายุน้อยกว่าพูดขึ้น เป็นภาษาที่ผมค่อนข้างคุ้นเคย เพราะผมอยู่ขอนแก่นหลายปี แต่สำเนียงก็ดูแปร่ง ๆ อาจจะเป็นภาษาของคนที่นี่ก็ได้
“นั่น แน่ว ฮ้อนอีหลี แก้เสื้อดีกว่า” ชายที่ถูกเรียกว่า “ผ่อ” หันมองมาทางผมแว๊บหนึ่ง ก่อนที่จะตัดสินใจถอดเสื้อออก และก็โบกไปมาเหมือนใช้เสื้อเป็นพัด ผมปรือตาขึ้นค่อนข้างกว้าง โอ้ โห! ตัวล่ำบึ๊กเลย แม้จะดูท่าทางเป็นชาวบ้านแต่ก็น่าสนใจไม่น้อย
“ข้อยกะแก้เสื้อบ้างดีกว่า ฮ้อนตัวเหนียวหมดเลย” แล้วผู้ที่อายุน้อยกว่าก็ถอดเสื้ออก ทำให้ผมได้มองเห็นรูปร่างที่ยั่วน้ำลายของทั้งคู่พร้อม ๆ กัน และจากบทสนทนาของทั้งคู่ก็ทำให้ผมพอจะทราบว่า ทั้งสองคนเป็นพ่อลูกกัน มาจากประเทศลาว พาเมีย(แม่ของลูก)มาผ่าไส้ติ่ง
“มึงบ่อทันได้อาบน้ำเถื่อตี”
“บ่อ..คนเข้าคิวหลายจัง คืนนี้ถ้าไม่ได้อาบน้ำคงนอนยากน่าดูเนอะอิผ่อ”
“รอถ้าดึก ๆ ให้คนอาบหมดก่อน จั่งอาบ” ทั้งสองสนทนากันถึงบ้านที่จากมา และอีกหลายเรื่องที่ทั้งคู่นำมาสนทนากัน ผมคิดว่าขืนนอนฟังเขาทั้งสองคุยกันอยู่อย่างนี้ แล้วความฝันจะเป็นจริงได้อย่างไร ถึงแม้จะเป็นคนจากประเทศลาว แต่ถ้ารูปร่างดีได้ขนาดนี้ ก็ไม่เลว และอีกอย่าง ผมคิดว่าความเป็นชาวบ้านของเขา คงทำให้คนกะล่อนอย่างผม ตะล่อมได้ไม่ยากนักหรอก ผมจึงยันตัวลุกขึ้น พลางบ่นงึมงัม
“ร้อนจัง”ผมเว้นช่วง และหันไปชวนพวกเขาคุย “ร้อนมั๊ยครับ”
“ฮ้อนอยู่..ฮ้อนหลาย”
“มานั่งเล่นเหรอครับ”
“อ๋อ บ่ดอก มาเฝ้าไข้ ข้อยพาเมียมาผ่าไส้ติ่ง เฮือนพักญาติคนหลาย แออัด เลยพาลูกมานั่งเล่น รอให้คนอาบน้ำหมดก่อนจึงจะไปอาบน้ำ-นอน แต่บ่ฮู้ว่าอีกนานเท่าใด๋ มื้อนี้ คนมาโรงบาลหลายจัง” ผู้เป็นพ่อตอบคำถามของผมค่อนข้างยืดยาว เหมือนจะผูกมิตรอยู่ในที และฝ่ายลูกชายก็ยิ้มให้ผม พร้อมกับเสริมขึ้น
“อากาศร้อนจังพี่ ตัวเหนียวหนึบเลย ถ้าไม่ได้อาบน้ำคงนอนลำบากน่าดู” เอ๊ะ! ลูกชายพูดภาษาไทยได้ค่อนข้างชัด แม้สำเนียงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ผมได้โอกาสจึงลุกขึ้นไปนั่งม้าแถวเดียวกับสองพ่อลูก และก็ชวนคุยนั่นคุยนี่ เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับพวกเขา แต่ส่วนใหญ่ผมจะเป็นฝ่ายฟังซะมากกว่า และผมก็ได้ทราบชื่อของทั้งคู่ ผู้เป็นพ่อชื่อเสิน ส่วนลูกชายชื่อคำพัน บ้านอยู่ที่เมืองแก่นท้าว ประเทศลาว เมืองนี้เปรียบเหมือนอำเภอหรือเขตของบ้านเรา และก็อยู่ไม่ไกลจากอำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย ซึ่งมีแม่น้ำเหืองเป็นพรมแดน แต่ทั้งสองฝั่งอยู่กันเหมือนเป็นคนบ้านเดียวกัน เพราะแม่น้ำเหืองเป็นแม่น้ำที่ไม่ค่อยลึก โดยจะเดินข้ามไปมาหากันได้สบาย ๆ
“พี่เสินดูยังไม่แก่เลย ทำไมมีลูกโตเป็นหนุ่มแล้วหละครับ” พี่แกหัวเราะแบบเขินนิดหนึ่ง ก่อนจะอ้อมแอ้มตอบแบบไม่เต็มเสียงนัก
“บ่ ฮู้ แถวบ้านกะมีลูกเป็นหนุ่มเป็นสาวแล้วคือกัน ลางคนอายุน้อยกว่าเฮาอีก ยังมีหลานแล้ว สงสัยเอาเมียแต่น้อย (แต่งงานแต่อายุยังน้อย)”
“พี่แต่งงานตอนอายุเท่าไหร่ครับ”
“สิบเจ็ด ตอนนี้เฮา อายุสามสิบเจ็ด คำพัน อายุ ได้ซาวปี (20 ปี) แล้ว”
“คำพัน พูดภาษาไทยได้ค่อนข้างดี เคยมาอยู่เมืองไทยเหรอ” ผมไม่เคยปล่อยอะไรให้ค้างคาใจอยู่แล้ว
“อ๋อ...ผมเคยไปทางานที่กรุงเทพครับ ตอนนี้กลับมาบ้านเพื่อดูแลแม่ เดี๋ยวพอแม่ค่อยยังชั่วแล้ว ผมจะกลับไปทำงานที่กรุงเทพอีก” ผมขยับเข้าไปใกล้หนุ่มน้อยจากประเทศลาว จนเข่าแทบเกยกัน กลิ่นสาบสางของหนุ่มวัยกำดัด ลอยมาเตะจมูกเรียกน้ำเงี่ยนได้ดีทีเดียว มือผมตบลงที่ท่อนขาของคำพันพร้อมกับขยำเบา ๆ และยิ้มให้แบบเดายาก
“รูปหล่ออย่างนี้ แต่งงานหรือยังหละ คำพัน”
“จะแต่งปีหน้าครับ”
“ได้ลูกสะใภ้ที่ไหนหละพี่เสิน”ผมรู้สึกเลี่ยนกับคำพูด รวมทั้งกริยาท่าทาง ที่ดูสนิทสนมกับสองพ่อลูกนี้เกินเหตุของผมจัง ทั้ง ๆ ที่ผมเพิ่งจะรู้จักพวกเขาได้ไม่ถึงชั่วโมงเลย แต่ผมยักไหล่ให้กับตัวเอง พลางคิดว่า แล้วแต่ใครจะคิด คนเราหว่านพืชก็ย่อมหวังผลอยู่แล้ว
“เพิ่นเป็นคนเมืองหลวง (หลวงพระบาง) เป็นลูกคนมีเงิน เพิ่นมามัก (ชอบ) เฮาเอง”
“ก็แน่หละซี รูปหล่ออย่างนี้ ถ้าผมเป็นสาว ผมก็ชอบเหมือนกัน” เปิดเผยเกินไปหรือเปล่า คุณพงศ์ดนัย ก็ช่าง ของแบบนี้มันต้องลองหยั่งเชิงกันดูก่อน ขืนบุ่มบ่าม คิดว่าหมูในอวย เกิดเขาไม่เล่นด้วย นอกจากจะไม่ได้แอ้มแล้ว ยังต้องขายหน้าชาวบ้านชาวช่องเขาอีก ผมพูดจบก็หลิ่วตาล้อเลียนน้องคำพัน แบบเยิ้มนิด ๆ มือที่จับต้อนขาเขาอยู่ก็ลูบไล้ไปมา และถ้าไม่เป็นการเข้าข้างตัวเองจนเกินไป ผมสังเกตได้ว่า น้องคำพันก็พอจะเข้าใจความหมายผมอยู่บ้าง เพราะเห็นยิ้มตอบมาแบบรู้กัน พร้อมกับเอามือมาวางไว้บนหลังมือของผม ที่วางอยู่บนต้นขาของเขา และพูดแบบถ่อมตัวนิด ๆ
“อย่างผมนี่นะพี่ รูปหล่อ”
“ก็ใช่ซี แม้มันจะไม่หล่อถึงขนาดดารา แต่รวมแล้วก็ดูดี ตัวก็ใหญ่ แถมพูดจาดี รูปร่างแบบนี้เตะตาเพศตรงกันข้ามได้อย่างดีเลยหละ คำพันสูงเท่าไหร่หละ”
“175 เซนติเมตรครับ”
“ดูสูงกว่าพ่อมากเลย แต่ความล่ำคงพอ ๆ กัน หรือพ่ออาจจะล่ำกว่า เออ ! เมื่อกี้เห็นพากันบ่นว่าเหนียวตัว อยากอาบน้ำใช่มั๊ย”
“แม่นหละ แต่ห้องอาบน้ำไม่ว่างสักเทื่อ นี่ก็ทิ้งให้แม่ไอ้คำพันอยู่คนเดียวตั้งนานแล้ว กะว่าอาบน้ำเสร็จก็จะขึ้นไปนอนเฝ้าเลย แต่ก็บ่ฮู้ตอนใด๋สิได้อาบ คำพันขึ้นไปหาแม่ก่อนไป๊ ผ่อถ้าอาบน้ำก่อนจั่งสิขึ้นไปเปลี่ยน อาบเสร็จมึงก็ไปนอนที่เฮือนพักญาติเลยเด้อ มื้อนี้ผ่อสินอนเฝ้าแม่เอง”
“เขาให้เฝ้าได้คนเดียวเหรอครับ”
“ใช่ พี่”
“เอาอย่างนี้ดีมั๊ย ขืนพี่รออาบน้ำที่ห้องอาบน้ำของโรงพยาบาล ไม่รู้เมื่อไรจะได้อาบ ในโรงเรียนข้าง ๆ ศาลาเนี๊ยะมันน่าจะมีห้องน้ำ เดี๋ยวผมจะพาไปขอเขาอาบ คงมียามเฝ้าอยู่ตรงประตูทางเข้า คิดว่าเขาคงให้อาบ คำพันขึ้นไปดูแม่ ให้พ่ออาบก่อนดีมั๊ย”
“ดีเลยพี่ งั้นข่อยขึ้นไปหาอีแหม่ก่อนเด้อผ่อ เจ้าอาบเสร็จแล้ว ค่อยขึ้นไปเปลี่ยนข่อย”น้องคำพันเดินออกจากศาลาตรงไปที่โรงพยาบาล ผมแอบยิ้มในหน้า คิดว่าคืนนี้อย่างน้อยที่สุด ผมต้องได้เห็นสองพ่อลูกนี่นุ่งกางเกงในอาบน้ำอย่างแน่นอน ผมพาพี่เสินไปที่หน้าประตูโรงเรียน เห็นมีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่หน้าประตู ผมใช้เวลาเจรจาไม่กี่คำ พี่ยามก็อนุญาตให้ผมกับพี่เสินเข้าไป แถมยังบอกทางไปห้องน้ำให้ด้วย ที่หน้าห้องน้ำมีสนามเด็กเล่น มีหลอดไฟเปิดอยู่หนึ่งหลอด และไฟที่หน้าห้องน้ำก็เปิดอยู่ ผมบอกให้พี่เสินนั่งรอที่ม้าหินอ่อนตรงสนามเด็กเล่น ส่วนผมเข้าไปสำรวจดูในห้องน้ำ มันก็ไม่มีห้องอาบน้ำ ในห้องน้ำมีเพียงโอ่งใบเล็ก ๆ ไว้รองน้ำเพื่อให้ชำระเท่านั้นเอง แต่ที่หน้าห้องน้ำ มีอ่างล้างหน้าอยู่สองใบ ผมลองใช้ฝาปิดที่ก้นอ่างล้างหน้า และก็ลองเปิดน้ำดู มันก็รองน้ำได้ แต่ก็มีปริมาณไม่มากนัก แต่ผมคิดว่า นี่แหละคือช่องทางที่เปิดโอกาสให้ผมได้...พี่เสิน ไม่กล้าพูดเขิลลลล..อะครับ
“ว้า!...แย่จัง ไม่มีห้องอาบน้ำเลยพี่ แต่ไม่เป็นไร ที่หน้าห้องน้ำมีอ่างล้างหน้าอยู่ ผมเปิดน้ำรองให้แล้ว แต่มันคงต้องรอนานหน่อยคิดว่ามันคงต้องขาดช่วงไปบ้าง” ผมนั่งลงข้าง ๆ พี่เสิน ได้กลิ่นบุหรี่และกลิ่นเหงื่อของพี่แกลอยมาเตะจมูกเป็นพัก ๆ เอาหละสิ ต่อมเซ็กส์ของผมเริ่มทำงานอีกแล้ว ผมเลยชวนแกคุยที่ส่อไปในทางลามก เพื่อเรียกน้ำเงี่ยนให้ตัวเอง พี่เสินแม้จะดูเป็นคนบ้านนอก แต่ก็เป็นคนเปิดเผย และขี้เกรงใจพอสมควร จุดนี้แหละที่ผมคิดว่า มันคือจุดอ่อนของพี่แก ที่จะทำให้ผมเผด็จสวาทแกได้ในคืนนี้
“พี่เสินมีลูกกี่คนครับ”
“ห้าคนแล้ว”
“โอ้โห ทำไมเยอะจัง” อันนี้ผมไม่ได้เสแสร้ง แต่ผมตกใจจริง “ฮั่นแน่ แสดงว่าพี่เย็ดกันทุกวันเลยใช่มั๊ย” พี่แกทำหน้างง พร้อมกับถามผมว่า
“เย็ดกันทุกวัน แปลว่าอีหยัง” ผมขยับเข้าไปชิดกับแกจนต้นขาของผมเบียดอยู่กับต้นขาของแก ผมเห็นแกไม่มีปฏิกริยาอะไร จึงถือโอกาลูบต้นขาของแกเล่น ขาแข็งจัง แล้วควยจะแข็งมั๊ยเนี๊ยะ
“คือผมหมายถึง เอากันหนะครับ พี่กับเมียคงเอากันทุกวัน” แกยังทำหน้างงอยู่อีก ผมก็จนปัญญา
“ก็เอากันเทื่อเดียว พอฮักกันก็เอากัน แต่งงานกันแม่นบ่ ที่ประเทศลาว แต่งงานกันคือเอากัน”
“ไม่ใช่พี่ คือ...ผมจะพูดยังไง ตอนที่พี่กับเมียพี่เอากันแล้ว ทำยังไงถึงมีลูก” พี่เสินมองหน้าผม ยิ้มอาย ๆ ก่อนที่จะอ้อมแอ้มตอบเบา ๆ
“ก้อ...คือ..สี้กัน” อันนี้ผมเข้าใจแล้ว เพราะคนขอนแก่นบางท้องที่ เขาก็พูด “เย็ดกัน” เป็น “สี้กัน” เหมือนพี่เสินนี่แหละ แต่ผมก็ยังแกล้งไม่เข้าใจ อยากได้ยินคำพูดที่ไร้เดียงสา แบบเอ็กซ์ ๆ จากแก
“ผมนึกไม่ออกครับ ทำยังไงครับ “สี้กัน” หนะ” เจอคำถามแบบพงศ์ดนัยเข้า พี่เสินยิ่งอายหนักเข้าไปอีก หน้างี้แดงเชียว ผมจ้องหน้าแกด้วยความลืมตัว พลางคิดเลยไปว่า หน้าตาบ้าน ๆ แต่ดูดีอย่างนี้ เวลาน้ำออก แล้วทำหน้าเสียวจะน่าดูขนาดไหนน้อ
“ก้อ..เวลาผู้หญิงกับผู้ชายนอนนำกัน แล้ว เออ..ผู้ชายก็เอา “คย “เข้าหี แล้วเด้าจนน้ำออก”
“อ๋อ..เข้าใจแล้วครับ ที่เมืองไทยเขาเรียกว่า “เย็ดกัน” ที่ประเทศลาวเรียกว่า “สี้กัน” เนาะ แล้วที่พี่บอกว่า เอาคยเข้าหี คำว่า “คย” นี่หมายถึง “ควย” แม่นบ่ครับ”
“เฮาบ่ฮู้ ว่ามันแปลว่าอีหยัง แต่มันคืออันนี้เนีย” พี่แกคงอยากให้ผมมองเห็นภาพ จึงลุกขึ้นเอามือชี้ที่เป้าตัวเอง แต่ผมยังคงแกล้งเซ่อต่อไป
“อ๋อ หำ”
“บ่ แม่น หำนั่นข้อยเคยได้ยินบักคำพันเล่าให้ฟังว่า คนไทยเอิ้นกะโปก” เอาหละวะ โอกาสมาถึงแล้ว ผมจึงยืนขึ้น ดึงกางเกงลงจนถึงเข่า ปล่อยควยใหญ่ห้อยหัวโตงเตง
“อันนี้ใช่มั๊ยพี่ ที่คนลาวเรียกว่า “คย” หนะ” ผมจับท่อนควยของผมขึ้นให้แกดู ผมเห็นพี่เสินพยักหน้า แต่อ้าปากค้าง ไม่ทราบว่าแกตกตลึงในความใหญ่โต ของควยผม หรือว่าแกนึกไม่ถึงว่าผมจะทำแบบนี้ ส่วนผมรู้สึกเสียวหัวควยวาบ ๆ ผมปล่อยให้แกจ้องอยู่อย่างนั้นครู่ใหญ่ ๆ จึงเก็บควยเข้าที่
“ทีนี้เราก็รู้แล้วว่า คำว่า “เย็ด” ของคนไทย คนลาวเรียกว่า “สี้” สรุปแล้วพี่ยังไม่ได้ตอบคำถามผมเลยว่า เหตุที่พี่มีลูกมาก พี่กับเมียสี้กันทุกวันเหรอครับ
“ก้อ..บ่ทุกวันดอก แต่ก็ไม่เคยเว้นเกินสองวัน บางทีเงี่ยนมาก ๆ ก็สี้กันทุกวัน”
“น่าสงสารพี่จังเนาะ เมียพี่ผ่าใส้ติ่ง พี่คงไม่ได้สี้หลายวันแล้ว ควยแข็งบ่อยมั๊ยครับ”
“แข็งดุ (บ่อย) จัง บางเทื่ออาบน้ำอยู่ ตอนถูสบู่พอคยถูกมือก็ตอดหัว (ผงกหัว) หงึก ๆ แล้ว” พี่เสินตอบแบบยิ้ม ๆ และผมคิดว่าตอนนี้ความอายของแกคงน้อยลงกว่าเดิมแล้ว เพราะผมสังเกตหน้าของแก ไม่แดงเหมือนเดิม
“ควยแข็งทำไมไม่ชักว่าวหละพี่”
“บ่ กล้า ย่านคนเห็น เพราะตอนที่เฮาอาบน้ำอยู่ มีคนถ้า (รอ) อยู่หน้าห้องน้ำตั้งหลายคน และพวกเขาก็คอยถามว่า เสร็จแล้วบ่ คืออาบโดน (นาน) แท้ ข้อยฮ้อนหลายแล้วเด้อ เป็นจั่งสี้อยู่คุยาม (ตลอดเวลา)”
“ไป..พี่ อาบน้ำดีกว่า น้ำล้นอ่างแล้ว ผมอาบด้วย รู้สึกร้อนเหมือนกัน” ผมถอดเสื้อผ้าออกเหลือแต่ตัวล่อนจ้อน เมื่อหันไปมองพี่เสิน เห็นแกมองมาทำหน้าแบบหมาสงสัย
“ป๋าคยอาบโลดติ (ก้าผ้าอาบเลยหรือ)”
“งั้นสิพี่ ผู้ชายด้วยกันไม่เห็นต้องอายเลย” ผมทำเป็นไม่สนใจแก (ทั้ง ๆ ที่ใจเต้นไม่เป็นส่ำ) เดินไปที่อ่างล้างหน้า หยิบขันในห้องน้ำมาตักราดตัว แต่พอราดไปได้แค่ห้าขัน น้ำก็หมดอ่างซะแล้ว ผมรอพี่เสินด้วยใจเต้นตุบ ๆ ยังนึกไม่ออกว่าแกจะแก้ผ้าอาบเหมือนผมหรือเปล่า ระหว่างนี้ผมมองหาสบู่ และผมก็เจอสบู่ก้อนเล็ก ๆ วางอยู่บนขอบอ่างอีกอันหนึ่ง ผมหยิบมันมาฟอกตัว และผมก็ได้ยินเสียงพี่เสินเดินมาถึงข้างหลังผมแล้ว ผมหันไปมอง และผมก็ตัวเย็นวาบ พี่เสินเดินมาด้วยตัวเปล่าเปลือยท่าทางอาย ๆ มือขวาของแกเกาะกุมที่ท่อนควยและพวงกะโปกไว้ จะเป็นเพราะ ควยแกใหญ่เกินไปหรือเปล่า ผมรู้สึกมือแกปิดควยไม่มิด ขนาดแกทำมือห่าง ๆ เพื่อให้มันปกคลุมบริเวณนั้นให้มากที่สุด ผมยังเห็นพวงไข่ของแกแลบล้นมือออกมาทั้งสองข้าง พี่เสินเป็นคนตัวไม่สูงมาก แต่ดูล่ำ ๆ เนื้อตัวคงแน่นเหมือนกับผู้ใช้แรงงานทั่ว ๆ หน้าท้องของแกก็แบนราบ มองเห็นกล้ามท้องขึ้นเป็นลอน หน้าตาของแกแม้จะดูบ้าน ๆ แต่ก็มีเสน่ห์อยู่ในที
“ปิดควยไว้ทำไมหละพี่ อายเหรอ ผมยังไม่อายเลย ไหนดูสิควยพี่คงใหญ่น่าดู” ผมเอื้อมมือลงไปดึงมือแกออก แกก็ไม่ได้ขัดขืน ตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวของแกก็ไม่มีอะไรปิดบัง ผมเลือบตาลงไปมองที่ท่อนควยของแก พอมันได้รับอิสระ มันก็ห้อยหัวโตงเตง มันใหญ่มากเลย ลำควยสีค้ำหัวถอกบานเหมือนหมวก ส.ห. กะโปกพวงใหญ่ ดูเร้าใจน่าดูดมาก ขนหมอยอันหยิกหยอย ปกคลุมทั่วบริเวณนั้น
“ควยพี่ใหญ่จัง สี้กันครั้งแรกเข้าหีเมียได้หรือเปล่า คงเข้ายากน่าดู”
“คืนแรกสี้บ่เข้า เพราะเมียเฮายังบ่เคยโดนคย เอาเข้าได้แต่หัวคย เขาบอกเจ็บหลายเฮาก็เลยเด้า ทั้ง ๆ ที่คยเข้าหีแค่คอหยัก น้ำเลยแตกออกมา คืนที่สองค่อยเข้าได้ แต่เลือดหีออกเลย” ผมฟังแกเล่าไปเรื่อย พลางตักน้ำราดตัวให้แก
“เอา นี่สบู่พี่ มันเหลือนิดเดียว” ตอนนี้ผมว่าพี่เสินคงไม่อายผมแล้ว ผมจึงหาคำพูดเพื่อมากระตุ้นอารมณ์ของแกไปเรื่อย ๆ “สี้กันอยู่อีกจักเทื่อหละพี่มันถึงเข้าได้”
“มื้อที่สาม คยจังเข้าหีได้”
“พอเขาได้แล้ว เมียพี่มักบ่”
“มักหลาย ชวนสี้กันเทื่อใด๋บ่เคยขัดจักเทื่อ”
“ตอนนี้เป็นไงครับ พี่คงกำลังอยากสี้เมียพี่เนาะ ถ้าได้ผู้สาวหีใหญ่ ๆ มาให้พี่สี้ตอนนี้คือสิดี” ผมใช้คำพูดยั่วยุพี่เสินไปด้วย พลางใช้มือลูบไล้ฟองสบู่ไปตามเนื้อตัวของแก ซึ่งแกก็ไม่ได้ขัดขืน ผมยิ่งได้ใจเลยเอามือลูบไล้หัวนมแกทั้งสองข้าง เท่ากับว่าตอนนี้ผมโอบกอดแกอยู่ทางด้านหลัง
“ยา...อย่า จับนมเฮา จักเดียม อูย..อย่าเฮ็ด..เฮาเสียว” ผมไม่หยุดหรอก แถมทั้งบีบทั้งขยำที่นมของแก พร้อมกับเบียดตัวเข้าไป จนแนบชิดกับตัวแก และมันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่ท่อนควยของผมจะทิ่มตำอยู่ที่ก้นของแก และตอนนี้ควยของผมก็กำลังแข็งเต็มที่ เนื้อตัวของพี่เสินดูหยาบกระด้าง แต่เต็มแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ เร้าใจมากเลย และผมคิดว่าตอนนี้เอาช้างมาฉุดผมก็ไม่อยู่แล้ว มือผมยังคงลูบไล้ไปตามลำตัวของพี่เสิน พร้อมกับกดควยแนบแน่นกับแก้มก้นอันแข็งแกร่งของแก ผมสังเกตว่าพี่เสินเกร็งตัวแน่น มือที่กำลังฟอกสบู่ ก็หยุดกุมอยู่ที่ควยของแก ผมจึงก้มลงไปมอง เห็นแกพยายามกดมือแน่น
“พี่เสินเป็นอะไรครับ เห็นกดมือไว้ที่ควยแน่นเลย”
“อูย..เฮาเสียว คยเฮาแข็ง”
“แล้วกดมันไว้ทำไมหละพี่ มันแข็งก็ปล่อยมันสิ”
“เฮา อยากอาย ตอนแรกเฮาคึดว่าผู้ชายกับผู้หญิงเท่านั้นที่กอดกัน แล้วเฮ็ดให้คยแข็ง แต่นี่ ผู้ชายกอดกัน ก็เสียวได้ เฮาอยากสี้จัง”
“ทำยังไงได้หละพี่ ที่นี่ไม่มีผู้หญิง ไม่มีหีให้พี่สี้ หรือพี่จะสี้ผม”
“โต (เอง) มีหีเบาะ(หรือไง)”
“สี้ดาก(เย็ดตูด)ก็ได้”
“อูย..บ่เอา มันผิดผี ขี้เดียด(ขยะแขยง) ฟ้าสิฝ่า” พี่เสินสะบัดตัวออกจากอ้อมกอดผมอย่างแรง ผมเองก็ตกใจไม่น้อยเหมือนกัน ไม่นึกเลยว่าแกจะมีปฏิกิริยาต่อต้านที่รุนแรงขนาดนี้ ผมคิดว่าสำหรับพี่เสินแล้ว ผมคงเข้าถึงตัวแกได้แค่นี้
“ผมขอโทษพี่ ผมไม่ได้มีเจตนาจะล่วงเกินพี่ ผมเพียงแต่หลูโตนพี่(สงสารพี่) อยากให้พี่มีแฮง(มีความสุข) เท่านั้นเอง ถ้าพี่ทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร พี่มาอาบน้ำต่อให้เสร็จเถอะ แล้วจะได้ไปหาเมียพี่” ผมรู้สึกเสียใจที่ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจตัวเอง อันที่จริงผมไม่ต้องมีเซ็กส์กับทุกคนที่มีโอกาสก็ได้ กรณีพี่เสินยิ่งไม่น่าใจร้อน เพราะยังไงซะ คำพันลูกชายแกก็ยังอยู่อีกคน พี่เสินอาจจะบอกลูกของแกไม่ให้มาอาบน้ำกับผมก็ได้ เพราะแกกลัวผมจะทำอะไรกับลูกของแก แต่ผิดคาด เพราะพี่เสินเดินมาหาผม เอื้อมมือมาตบไหล่ผมเบา ๆ
“เฮาก็บ่ได้ คึดอีหยัง และบ่ได้ถือโทษโกรธโตดอก เพียงแต่เฮาบ่อเคยได้ยิน และบ่คึดว่าผู้ชายสิสี้กันได้ มาอาบน้ำกันต่อให้แล้วเถอะ” แกยิ้มให้ผมอย่างอบอุ่น
“ครับพี่” เราตักน้ำราดตัว ผมเห็นพี่เสินลูบไล้ฝ่ามือไปตามเนื้อตัวอันเปล่าเปลือย เพื่อล้างฟองสบู่ออกจากตัว ผมชำเลืองมองด้วยหัวใจวาบหวิว และเมื่อฝ่ามืออันหยาบกร้านของแก ลูบไปที่ลำควยของแก ควยของแกก็ผงาดขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ผมได้เห็นเต็มตา ควยท่อนใหญ่ดำมะเมี่ยม โงนเงนไปมายามที่มันโดนมือของเจ้าของลูบไล้ หัวถอกที่บานใหญ่ ดูเป็นสีม่วงคล้ำ คงมีเลือดมาคลั่งเยอะ ตามลำควยท่อนใหญ่ปูดโปนไปด้วยเส้นเอ็น กะโปกพวงใหญ่ที่ดูห้อยลงจน ตอนนี้หดขึ้นมาดูเป็นกะเปาะ สงสัยหนาวเพราะโดนน้ำ แต่ก็ยังดูเป็นถุงใหญ่ กลุ่มหมอยอันดกดำ เมื่อโดนน้ำดูลู่ลงเป็นเส้นยาว
“พี่ยังอยากสี้อยู่เหรอครับ ควยแข็งอีกแล้ว”
“มันคงบ่เซา(ไม่หาย) อยากดอก คืนนี้ถ้าน้ำบ่ออก สงสัยต้องแข็งทั้งคืน อยากอายหมอเด้(คิดแล้วอายหมอจัง)”
“กลัวมันแข็งใส่หน้าหมอ ก็เอาน้ำออกก่อนสิพี่”
“เฮ็ดจั่งใด๋หละ”
“ชักว่าวไงพี่”
“ชักคนเดียว อายโต”
“ผมก็จะชักด้วยพี่ มาเรามาชักว่าวกัน” ผมไม่รอช้า รีบกำควยขึ้นมาสาวว่าว ควยผมก็แข็งรออยู่แล้ว และพี่เสินก็เริ่มชักควยตัวเองเหมือนกัน เราหันหน้าเข้าหากัน ผมสาวควยตัวเองไป ตาก็จ้องมองพี่เสินเป็นตัวกระตุ้น ควยใหญ่ของพี่เสิน ถูกแกกำขึ้นมา ด้วยความใหญ่ ยาวของมัน แกกำไม่รอบ ส่วนลำควยก็เหลือโผล่ออกมาให้เห็นอีกตั้งครึ่งหนึ่ง แกกำมือแน่น กระชากชักควยค่อนข้างแรง พลางแหงนหน้า ซี๊ดปาก มือของแกกำควยชักจนชนกับหมอย ส่วนตูดแกก็กระเด้าสวนขึ้นมา
“เสียวมากมั๊ยพี่”
“อูย เสียวจัง เฮาบ่อได้เอาน้ำออกตั้งเกือบเดือนแล้ว เพิ่งมีมื้อนี้แหละที่ได้ชักว่าว มีแฮง(เสียว) จัง บ่อยากให้น้ำออกเลย อยากเสียวจั่งสี้โดน ๆ (นาน ๆ)”
“ผมก็เสียวมากเหมือนกันพี่” อันนี้ผมพูดจริง ไม่ได้เสแสร้ง เพราะท่าทางการชักว่าวของพี่เสิน เร้าอารมณ์เหลือเกิน
“โอ๊ย ..พี่ ผมไม่ไหวแล้วครับ น้ำจะออกแล้วครับ ออ..น้ำผมออกแล้วพี่ อูย..เสียวสุด ๆ เลย”
“เสร็จแล้ว ตี่(หรือ) น้ำหลายคือกันเนาะ เฮายังบ่ออยากออก อยากมีเสียวโดน ๆ ก่อน”
“ให้ผมชักให้นะพี่ รับรองพี่จะเสียวมากกว่าเดิมอีก”
“เอาจั่งสั้นติ” ผมไม่รอให้แกอนุญาต เข้าไปคุกเข่าตรงหน้าแก เอื้อมมือไปกำควยใหญ่ของแก ซึ่งแกก็ไม่ได้ขัดขืน ผมรู้สึกว่าควยแกแข็งมากเลย มือขวาของผมกำควยใหญ่ชักเข้าชักออก ในขณะที่มือซ้ายของผมก็ลูบไล้อยู่ที่กะโปกพวงใหญ่ของแก ตอนนี้ควยท่อนใหญ่ผุบเข้าผุบออกจากมือของผม ห่างจากปากของผมไม่ถึงคืบ กลิ่นคาวจากปลายถอกของแกลอยมาเข้าจมูกหอมหวนรัญจวนใจยิ่งนัก ผมอยากอ้าปากดูดควยแกเหลือเกิน แต่ก็ไม่กล้า กลัวแกโวยวายขึ้นอีก เดี๋ยวสวรรค์จะล่มซะเปล่า สำหรับพี่เสินได้แค่นี้ก็เกินพอแล้วหละ
“โตซักว่าวให้ มีแฮงอีหลี ยิ่งลูบหำ (กะโปก) นำ(ด้วย) แห่งมีแฮงหลาย (ยิ่งเสียวกว่าเดิม) อูย! เสียว กำแน่น ซักแฮง น้ำเฮาสิออกแล้ว โอ๊! ..ออกแล้ว ออกแล้ว น้ำเฮาออกแล้ว” สองมือของพี่เสินกุมที่มือผมและกำอย่างแน่น พร้อมกับกระชากชักเองอย่างแรง เหมือนกับว่าที่ผมชักให้แกนั้น มันไม่สะใจแก พอน้ำควยแกพุ่งออกมา แกยิ่งกำมือแน่น ซี๊ดปากดังลั่น ขบกรามจนขึ้นเป็นสัน พร้อมกับแอ่นตัวมาข้างหน้า จนปลายถอกของแกชนกับปากผมอย่างจัง ผมไม่รอรีอะไรอีกแล้ว เป็นไงเป็นกัน ผมอ้าปากอย่างกว้าง อมควยท่อนใหญ่ข้าไว้ และก็รู้สึกถึงน้ำอุ่น ๆ คาว ๆ พุ่งเข้ามาอย่างมากมาย ผมทั้งดูดทั้งเลีย และโดยที่ไม่ได้คาดคิด ผมรู้สึกว่า สองมือของพี่เสิน ปล่อยจากการกระชากชักควย มากุมอยู่ที่หัวของผม พร้อมกับกดเข้าใส่ ส่วนตูดของแกก็กระเด้าปากผมผับ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มันทั้งเร็วและแรง
กะโปกพวงใหญ่ของแกตีคางผมเสียงดัง ปับๆๆๆๆๆๆๆๆ ปลายถอกอันใหญ่นั้นก็กระทุ้งลำคอผมอย่างแรง ถ้ามันเป็นมีดปลายแหลม ป่านนี้มันคงทะลุออกทางท้ายทองของผมแล้ว ฝ่ามืออันหยาบหนาของพี่เสิน กดหัวผมอยู่อย่างนั้น ส่วนตูดก็กระแทกควยท่อนใหญ่เข้าปากผมไม่ยอมหยุด ส่วนผมก็ดูดกลืนกินน้ำควยของแกด้วยความเอร็ดอร่อย จนหยดสุดท้าย แกถึงคลายมือออก และหยุดกระเด้า
“โอย...มีแฮงคย(เสียวควย) จัง หีแหม่มึงดูดคยผ่อดีแท้ แต่ก่อนคือบ่ดูดดีจั่งสี้” แกดึงสะโพกถอดควยออกจากปากผม ควยท่อนใหญ่หลุดผลั๊วออกมา เยิ้มไปด้วยน้ำควยปนน้ำลาย กลิ่นคาวคุ้ง ผมแหงนหน้าสบตาแกยิ้มแบบหยาดเยิ้ม แต่พี่เสินทำสีหน้าตกอกตกใจ
“ฮ่วย! เฮาสี้ปากโตติ (อ้าว ตายจริงผมเย็ดปากคุณเหรอครับ) โอ้ย! ขอสุมาเด้อ อย่าเคียดให้เฮาเด้อ เฮาลืมโตไป คึดว่าสี้อยู่กับเมีย (ขอโทษนะครับ อย่าโกรธผมนะ ผมลืมตัวไปหน่อย นึกว่าเย็ดอยู่กับเมีย” ผมเห็นพี่เสินทำคอตก ตาละห้อย เหมือนคนสำนึกผิดแล้ว ผมแทบกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ อันที่จริงผมต่างหาก ที่น่าจะเป็นฝ่ายขอโทษแก เสียรู้ให้พงศ์ดนัยซะแล้ว พี่เสินควยใหญ่ ทีนี้ยังเหลือน้องคำพันลูกชายสุดหล่อของพี่ คิดหรือว่าจะรอดพ้นมือ ของพงศ์ดนัยไปได้
555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555
เราอาบน้ำเสร็จก็เดินออกจากโรงเรียนมาทางเก่า พี่ยามทักทายอย่างคนมีน้ำใจ
“เสร็จแล้วหรือครับ”
“เสร็จแล้วครับ เสร็จทั้งสองคนเลย” พี่ยามทำหน้างงกับคำตอบของผม ผมเพิ่งได้สังเกตพี่ยามชัด ๆ ก็ตอนนี้นี่เอง พี่ยามเป็นคนผิวคล้ำ ตัวสูง ๆ ล่ำ ๆ ตัดผมรองทรงเหมือนทหารหรือตำรวจทำนองนั้น แกไม่ได้แต่งชุดยามเต็มยศ วันนี้แกนุ่งกางเกงขายาวสีกรมท่า เสื้อยืดแขนสั้นสีขาว มองตรงแผงหน้าอก ดูกำยำดีแท้ ท่อนแขนของแกค่อนข้างใหญ่ เส้นเอ็นขึ้นเต็ม เหมือนกับในชีวิตของแก ต้องทำงานยกของมาทั้งชีวิต ผมเริ่มสนใจพี่ยาม และก็คิดว่าคงไม่ยากเกินไปสำหรับผม แต่วันนี้น้องคำพันยังรอผมอยู่ ผมจึงบอกให้พี่เสินไปเปลี่ยนคำพันให้มาอาบน้ำ ส่วนผมจะคอยอยู่ที่นี่ พี่เสินเดินจากไปแล้ว ผมก็เริ่มสนทนากับพี่ยาม
“ต้องขอรบกวนพี่อีกครั้งนะครับ คือยังเหลือน้องอีกคนหนึ่งที่ยังไม่ได้อาบน้ำ”
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องเกรงใจหรอก เราคนไทยด้วยกัน แบ่งปันกันได้อยู่แล้ว” ผมคุยกับพี่ยามถึงเรื่องทั่วไป และก็ได้ทราบว่าแกชื่อ อาวุธ มาเป็นยามอยู่ที่นี่ได้ห้าปีแล้ว แต่ก่อนแกเคยเป็นทหารพราน แต่ตอนนี้ลาออกแล้ว ผมกำลังคุยกับพี่อาวุธอย่างออกรส น้องคำพันก็มาถึงพอดี
“ผมพาน้องไปอาบน้ำก่อนนะพี่ เดียววันหลังผมจะแวะมาคุยด้วยอีก”
“ครับ ดีเลย อยู่ยามคนเดียวบางทีก็เหงาเหมือนกัน” ผมกับคำพันเดินมาถึงสนามเด็กเล่นหน้าห้องน้ำแล้ว
“ในห้องน้ำมันไม่มีอ่างอาบน้ำนะ คำพัน”
“อ้าว! แล้วพ่อผมอาบยังไงหละ” คำพันทำหน้าผิดหวัง
“ตรงหน้าห้องน้ำจะมีอ่างล้างหน้าอยู่ พี่ก็เลยรองน้ำตรงนั้นให้พ่อเราอาบ แต่มันได้ทีละนิด คนตัวใหญ่อย่างคำพันคงไม่พออาบ พี่ว่าเราเดินไปสำรวจดูข้างห้องน้ำดีมั๊ย เผื่อมีก๊อกน้ำอยู่บ้าง จะได้เปิดอาบเลย พอดีเมื่อกี้ตอนพาพ่อมาอาบพี่ก็ลืมนึกไป”
“ดีครับพี่” เราเดินไปดูที่ข้างห้องน้ำ และมันก็มีก๊อกน้ำจริง ๆ ด้วย
“นั่นไง คำพัน ก๊อกน้ำ ไปเปิดดูซิ น้ำไหลหรือเปล่า” คำพันเดินไปเปิดน้ำดู ปรากฏว่ามีน้ำไหลออกมาค่อนข้างแรง
“ใช้ได้พี่”
“งั้นอาบเลย พี่อาบด้วยรู้สึกร้อนเหมือนกัน” แผนการอันชั่วร้าย คำพันถอดเสื้อยืดออก เผยให้รูปร่างอันสูงสง่า เนื่องจากน้องเขาเป็นคนตัวใหญ่และก็ค่อนข้างสูงด้วย รูปร่างเขาจึงดูดีมาก ผิวค่อนไปทางขาว ตรงหน้าอกมีกล้ามเนื้อขึ้นพองาม ตรงหน้าท้องมีไรขนขึ้นอ่อน ๆ พอให้ดูเซ็กส์ซี่
“อาบยังไงหละพี่ ไม่มีผ้าขาวม้านุ่งอาบ”
“ไม่เห็นยากเลย ก็แกผ้าอาบสิ เราผู้ชายด้วยกันไม่เห็นต้องอายกันเลย”ผมถอดเสื้อบ้าง มองไปทางคำพัน เห็นถอดกางเกงขายาวออก เหลือแต่กางเกงในตัวเดียว ผมเดินเฉียดเข้าไปใกล้ ๆ เนื่องจากกางเกงในของน้องเขาเนื้อผ้าค่อนข้างบาง จึงมองเห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ข้างในได้ค่อนข้างชัดเจน โอ้ โห! ควยขึ้นเป็นลำเลย คงใหญ่น่าดู กะโปกก็คงต้องใหญ่ด้วย เพราะมันตุงดันท่อนควยขึ้นมาเห็นเป็นรูปเป็นร่างเลย คำพันเดินไปที่ก๊อกน้ำ
“อ้าว! คำพัน ไม่ถอดกางเกงในก่อนเหรอ ถ้ามันเปียกจะเอาไปตากที่ไหนหละ”
“ผมก็คิดอยู่เหมือนกันพี่ แต่มันกระดากยังไงไม่รู้ ที่ต้องมาแก้ผ้าอยู่ต่อหน้าคนที่เพิ่งรู้จกกัน”
“ไม่เป็นไรหรอก เอ้า พี่แก้เป็นตัวอย่างก่อนก็ได้” ผมถอดกางเกงออก เหลือแต่ตัวล่อนจ้อน คำพันหันมามอง แล้วก็อมยิ้ม พลางถอดกางเกงในออก ผมจ้องมองด้วยใจสั่น ๆ สิ่งที่ผมรอคอยมันกำลังจะเกิดขึ้นข้างหน้าผมในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้ และแล้วเกงเกงในของน้องคำพันก็ถูกดึงออกทางปลายเท้า ผมรีบจ้องไปตรงกางลำตัวทันที ว่าแล้วมั๊ยหละ ขนาดควยพ่อยังใหญ่ขนาดนั้น แล้วลูกมันก็ใหญ่อย่างที่ผมคาดการณ์ไว้จริง
น้องคำพันควยใหญ่กว่าพี่เสินอีก ลำควยขนาดใหญ่แกว่งไปมา ในขณะที่เจ้าตัวก้าวขาเดิน มันแกว่งไปโดนขาข้างซ้าย ขาข้างขวา สลับกันไปมา ปลายควยยังไม่ถอก แต่ดูเหมือนอมของขนาดใหญ่ไว้ น้องคำพันมีหมอยเยอะมาก เยอะจนดูดำไปทั่วทั้งบริเวณนั้น และยังลาม ไปถึงกะโปก และโคนขา จนไปเชื่อมต่อกับขนขาที่ดูดกดำ ผมเปิดน้ำแล้วเข้าไปนั่งอยู่ใต้ก๊อกน้ำ ปล่อยให้น้ำไหลราดตั้งแต่หัวลงมา คำพันเข้ามานั่งจนลำตัวติดกับตัวผม เราผลัดกันเอียงตัวเข้าหาก๊อกน้ำ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ตัวของผมกับตัวของ
คำพันจะเสียดสีกัน ซึ่งมันทำให้ผมซ่านเสียวจนขนลุก ผมมองดูสายน้ำที่ไหลราดตัวน้องคำพัน เมื่อมันต้องกับแสงไป ดูเป็นประกายวาววับ เรียกน้ำเงี่ยนได้ดีแท้
“เย็นสบายดีจังนะพี่ แต่เสียอย่างเดียวไม่มีสบู่ ผมก็ลืมนึกถึงข้อนี้ไป”
“พี่ก็ลืมคิดเหมือนกัน แต่ตรงอ่างล้างหน้า หน้าห้องน้ำจะมีสบู่ก้อนเล็ก ๆ อยู่พอแก้ขัดได้ เมื่อกี้พ่อของคำพันก็ใช้ก้อนนั้นแหละ คำพันไปหยิบมาสิ” คำพันลุกเดินไป ผมมองตามด้านหลัง ด้วยตัวที่สูงโปร่งและตัวใหญ่ แผ่นหลังจึงดูหนา เอวคอดนิดหนึ่ง ตรงสะโพก ดูงอนงาม เต็มแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อของวัยหนุ่ม แก้มก้นทั้งสองข้างมีรอยบุ๋มเข้าไป ยามที่เขาเยื้องย่าง มันดูเกร็งแน่น ตูดแบบนี้ ยามเกร็งกระเด้าจะน่าดูขนาดใหนน้อ ผมคิดอะไรไปเรื่อยเปลื่อย จนน้องเขาเดินกลับมา เมื้อกี้ผมกำลังสยิวกับแก้มก้นของน้องเขา และตอนนี้น้องเขาเดินหันหน้ามาทางผม มองเห็นควยท่อนใหญ่แกว่งไปมา ดูเด่นไปสง่า
และควยของผมก็แข็งขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“คำพันเข้าไปอาบเลย มาพี่ฟอกสบู่ให้”
“ผมทำเองก็ได้พี่”
“น่า...ให้พี่ทำให้เถอะ เพราะเดี๋ยวถึงตาพี่คำพันก็ต้องถูให้พี่อยู่แล้ว เพราะถูข้างหลังคงจะบาก มือมันไม่ถึง” น้องคำพันไม่ได้ขัดขืนผมอีก และขยับเข้าไปนั่งใต้ก๊อกน้ำ ผมเข้ามานั่งข้างหลัง มือลูบฟองสบู่ไปตามแผ่นหลังอันแข็งแกร่งนั้น
“คำพันเนื้อแน่นจัง ตัวแน่น ๆ อย่างนี้ผู้หญิงชอบ อยู่กรุงเทพคงมีแฟนเยอะหละสิ”
“ไม่มีหรอกพี่ ก็ผมมีแฟนจนจะแต่งงานกันแล้ว”
“แฟนไปอยู่ด้วยเหรอ”
“เปล่าหรอกครับ”
“อ้าว ...แล้วเมื่อไหร่จะได้เจอกันหละ เห็นบอกว่าแฟนอยู่หลวงพระบาง ส่วนเราอยู่เมืองแก่นท้าว มันไกลกันอยู่ไม่ใช่เหรอ”
“ก็ไกลอยู่พี่ แต่คนลาว ไม่เหมือนคนไทย ที่คนเป็นแฟนกันต้องเห็นหน้ากันบ่อย ๆ คือผู้ใหญ่พูดกันแล้ว ถึงวันแต่งค่อยอยู่ด้วยกัน”
“พี่ถามหน่อยเถอะ จนจะแต่งงานกันแล้ว เคย...เออ..นอนด้วยกันหรือยัง พี่หมายถึง..ยังไงดีหละ” ผมกลายเป็นคนติดอ่างตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ จนน้องคำพันตอบมาซะเองเลย
“เย็ดกันใช่มั๊ยพี่”
“ก้อ..ทำนองนั้นแหละ”
“เคย..เคยเย็ดกันแล้วพี่ เขามาหาผมที่บ้าน เนื่องจากบ้านเขารวย มีรถส่วนตัวขับ เขาอายุมากกว่าผมตั้งหลายปี และเคยแต่งงานมาครั้งหนึ่งแล้ว”
“อ้าว...น่าเสียดายคำพันจังเนอะ ทั้งหนุ่ม ทั้งหล่อ ต้องมาแต่งงานกับผู้หญิงที่อายุมากกว่า แถมยังเป็นแม่ม่ายอีกต่างหาก แล้วคำพันรักเขาหรือเปล่าหละ”
“ผมไม่ได้รักครับ แต่ก็ไม่ได้รังเกียจ อีกอย่าง พ่อกับแม่ผมชอบเขา บอกว่าถ้าผมได้แต่งงานกับเขาผมจะสบายไปทั้งชาติ ไม่ต้องพลัดบ้านพลัดเมืองมาทำงานถึงเมืองไทย”
“แล้วได้กันตอนไหนหละ”
“วันนั้นเขาขับรถจากหลวงพระบางมาหาผม พ่อกับแม่ของผมชอบเขามาก จึงปล่อยให้เราอยู่กันเพียงสองคน โดยพ่อกับแม่ผมไปไร่ และชวนน้อง ๆ ไปหมด บ้านทั้งหลังจึงเหลือผมกับเขาเพียงสองคน”
“ใครเริ่มก่อนหละ” ผมชักมีอารมณ์ ตอนนี้ผมเลิกถูสบู่ให้น้องเขาแล้ว นั่งฟังอย่างเดียว
“เขาเริ่มก่อน ผมเพิ่งอาบน้ำเสร็จ นุ่งผ้าขาวม้าผืนเดียว เขาเข้ามากอดข้างหลังผม ซบหน้ากับหลังผม บอกว่าคิดถึง กอดไม่กอดเปล่า มือยังกำควยผมด้วย”
“กำแล้วเขาชมหรือเปล่า”
“ก็บอกว่า ควยผมใหญ่จัง ควยผัวเก่าเขาไม่ได้ครึ่งหนึ่งของผมเลย พร้อมกับดึงผ้าขาวม้าของผมออก ตอนนั้นผมก็เงี่ยน ควยผมก็เลยแข็ง เราก็เลยเย็ดกันอยู่ตรงนั้นแหละ”
“แล้วเขาติดใจหรือเปล่าหละ”
“ติดใจสิพี่ ตอนเธอเสร็จเธอร้องเสียงดังมาก บอกไม่เคยเสียวอย่างนี้มาก่อน และผัวเก่าเธอก็ไม่เคยเลียหีให้ด้วย”
“คำพันเลียหีให้ด้วยหรือ”
“ครับ พี่ซินดี้สอนไว้ ถ้าเย็ดกับผู้หญิงอยากให้เขาติดใจ ต้องเลียหี ดูดแตดให้เขาด้วย”
“เดี๋ยว พี่ซินดี้นี้คือใคร”
“คนที่ผมอยู่ด้วยที่กรุงเทพ พี่ซินดี้นี้แหละเป็นคนฝากงานให้ผมที่ร้านอาหาร ที่แกร้องเพลงอยู่ แกเป็น...เป็น..กระเทยครับ” ผมอึ้งเลย มิน่า ตอนที่ผมจับขาคำพันครั้งแรก ตอนที่คุยกันที่ศาลา น้องเขาจึงยิ้มให้ผม แบบเข้าใจ”
“งั้น..คำพันกับซินดี้ ก็”
“ผมสงสารแกหนะพี่ อุตส่าห์ฝากงานให้ และยังให้ผมอยู่บ้านด้วย แถมดูแลอย่างดี บางทียังให้เงินผมใช้ด้วย ตอนแรกแกดูดควยให้ผมก่อน ผมก็ว่าดีนะครับ แกดูดดีมาก ผมเสียวมากเลย ดีกว่าชักว่าวตั้งเยอะ พอตอนหลังแกสอนให้ผมเย็ดตูดแก อันนี้ยิ่งดีใหญ่เลย ตูดแกรัดควยผมดีกว่า หีแฟนซะอีก”
“เย็ดกันทุกวันมั๊ย”
“แทบทุกวันพี่ ผมชอบ บางทีแกไม่อยากแต่ผมขอเย็ดแกเอง” ฟังคำพันเล่ามาถึงตรงนี้ แสดงงว่าความฝันของผมมันอยู่แค่เอื้อม ผมจึงเริ่มลูบไล้ฟองสบู่ไปตามแผ่นหลังของคำพันอีกครั้งหนึ่ง และสอดมือเข้าไปใต้รักแร้ ไปลูบที่หัวนมทั้งสองข้าง และผมก็ได้ยินเสียงน้องคำพันซี๊ดปากเบา ๆ
“พี่ อย่าลูบหัวผมสิ มันเสียว” ผมเอียงหน้าเข้าไปกระซิบที่ข้างหูของคำพันด้วยเสียงกระเส่า
“เสียวแล้ว...ชอบหรอเปล่า”
“พี่..ผม” ก่อนที่คำพันจะพูดอะไรมากกว่านี้ ผมใช้ปากปิดลงที่ปากของน้องเขา คำพันเผยอปากขึ้นตอบรับ เราบดขยี้แลกจูบกันอยู่นาน ผมจึงผลักคำพันนอนหงายลงตรงนั้น
และเริ่มไซ้ตั้งแต่ซอกคอ เรื่อยลงมาถึงหัวนม ผมหยุดดูดเลียหัวนมของน้องเขาทั้งสองข้าง สลับกันไปมา น้องคำพันใช้มือลูบที่หัวผม พร้อมกับซี๊ดปากอย่างแรง
“อูย...ซี๊ด..เสียวจังเลยพี่” ผมลากลิ้นไปตามหน้าท้อง ขบกัดเบา ๆ ตรงไรขนที่ขึ้นอ่อน บริวเวณหน้าท้องนั้น ตอนนี้จมูกของผม ฝังอยู่ที่พงหมอยอันดกดำ ส่วนลิ้นของผมก็เลียไปตามซอกขา ดูดอมกะโปกพวงใหญ่ และแยงเข้าไปในรูตูดที่รกไปด้วยขน มือของผมกำควยใหญ่แล้วเปิดหัวถอกออก ปลายถอกของคำพันสีออกชมพูอมม่วง ผมเลียไปตามคอหยัด ก่อนที่จะอ้าปากอม และเริ่มดูดหนัก ๆ ส่วนน้องคำพันก็ใช้มือกดหัวผมไว้ พร้อมกับกระเด้าสวนขึ้นมา ผมดูดควยใหญ่อยู่พักใหญ่ จึงลุกขึ้นนั่งยอง ๆ คร่อมตรงกลางลำตัวของน้องเขา มือขวาประคองสากใหญ่ไว้ เมื่อเห็นว่ามันตรงทางแล้ว ผมจึงหย่อนก้นลงไป หัวถอกมู่ทู่นั้น แทรกผ่านรูสวรรค์ของผมเข้าไปจนถึงคอหยัก ผมรู้สึกตึงแน่นไปหมด ส่วนคำพันสะดุ้งเฮือก สองมือบีบแขนผมแน่น ผมค่อย ๆ กดสะโพกลงช้า ๆ ควยท่อนใหญ่ครูดรูตูดผมเข้าไปทีละ ๆ จนมิดด้าม คำพันดูเหมือนจะรู้งาน อาจจะเป็นเพราะซินดี้สอนมาดีก็ได้ เพราะตอนนี้เขากระดกควยหงึก ๆ ควยท่อนใหญ่จนดิ้นอยู่ในรูตูดของผม ผมรู้สึกเสียวาบ ๆ เหมือนน้ำจะออก สองมือของผมค้ำยันอยู่ที่อกแกร่งของคำพัน และก็เริ่มโยกเข้าโยกออก น้องคำพันทำหน้าหล่อ หลับตาซี๊ดปาก ผมรู้สึกหมั่นเขี้ยวจึงก้มหน้าลงไปบดขยี้ปากกับน้องคำพันอีกครั้งหนึ่ง เมื่อผมถอนปากออก ผมจึงเอี้ยวตัวหันหน้ามาทางเท้าของคำพัน เพราะผมอยากดูว่า ยามนี้กะโปกพวงใหญ่จะอยู่ในสภาพอย่างไร และผมก็ได้เห็นว่ายามผมกระแทกตูดลงไป ไข่ใบเขื่องทั้งสองใบ เลื่อนขึ้นเลื่อนลง อย่างน่ารัก ผมจึงอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปลูบเล่น
“พี่ผมเสียวมากเลย เปลี่ยนท่าดีกว่านะครับ” คำพันบอกให้ผมคลานลง ส่วนตัวเขาขึ้นคร่อม โดยที่ควยยังคาตูดอยู่ เมื่อเข้าที่เข้าทางดีแล้ว เขาจึงเริ่มกระแทกควยเข้ามา ทั้งแรงและเร็ว กะโปกของน้องเขา ตีกับกะโปกผมดังปับ ๆๆ ขนหมอยอันหยาบแข็งของเขาแยงเข้าไปที่รูตูดของผม เพิ่มความเสียวได้อย่างดีทีเดียว เขาคร่อมตัวกระเด้าผมอยู่สักพัก จึงเปลี่ยนเป็นท่าลิงอุ้มแตง ท่านี้ผมชอบมาก เพราะรู้สึกว่าเวลาควยกระแทกเข้ามามันเข้าลึกดี
“พี่ผมจะอุ้มพี่เดินเย็ดไปตามสนามเด็กเล่นนะครับ”
“ตามใจคำพันเถอะ พี่เสียวมากเลย ทำยังไงก็ได้” ผมกอดคอน้องเขา ขาทั้งสองข้างก็โอบไปรอบเอว ส่วนมืออันแข็งแรงของน้องเขาจับอยู่ที่เอวของผม พร้อมกับกระแทกลงรับกับการกระเด้าควยสวนขึ้นมา ผมรู้สึกว่าควยเข้าลึกมาก เหมือนกับว่ามันมาจุกอยู่ที่อกของผม น้องเข้าอุ้มผมเดินกระเด้าไปตามสนามหญ้า ผมรู้สึกสะใจและเสียวมาก
“พี่สงสัยผมจะไม่ไหวแล้ว ครับ ดูเหมือนน้ำจะออกแล้ว ตูดพี่ขมิบรัดควยผมดีมากเลย พี่ให้ผมเย็ดทุกวันนะครับ” ผมยิ้มรับ โน้มคอน้องเข้ามาจูบอย่างดูดดื่มอีกครั้งหนึ่ง น้องคำพันวางผมลงตรงมาหินอ่อนที่สนามเด็กเล่น และยืนโซ้ยอย่างเอาเป็นเอาตาย
“คำพัน แรง ๆ ครับ พี่...พี่ไม่ไหวแล้ว น้ำจะออกแล้ว ออกแล้วครับ น้ำควยพี่ออกแล้ว” และน้ำควยของผมก็พุ่งออกมาอย่างแรง จนกระเด็นขึ้นไปชนกับหน้าท้องของคำพัน
“พี่...ผมก็ ไม่ไหวเหมือนกัน จา..นา ..น้ำ..น้ำ..ผมจะออกแล้ว จะออกแล้วครับ”
“คำพัน เอาน้ำเธอมาให้พี่กิน ออกในปากพี่นะ” ผมอ้าปากรอในขณะที่น้องเข้าร้องดังลั่น
“โอ๊ย...ออกแล้วพี่ น้ำควยผมออกแล้ว” คำพันถอดควยออกจากรูตูดของผม พร้อมกับกำควยท่อนใหญ่ยัดเข้าไปในปากของผม ผมดูดดุนอย่างแรง และน้ำควยของคำพันก็พุ่งจู๊ด ๆๆๆ เข้าไปในปากผม ผมกลืนลงคอด้วยความเอร็ดอร่อย จนหยดสุดท้าย พอน้ำควยเขาออกหมด ผมจึงดูดทำความสะอาดควยน้องเข้าจนเกลี้ยง น้องคำพันจูบผมอย่างดูดดื่มอีกครั้งหนึ่ง แล้วเราก็กอดกันกลิ้งไปมาที่สนามหญ้าตรงนั้นนานเท่านาน ถึงได้ลุกไปอาบน้ำ และผมก็โดนน้องคำพันเอาควยใหญ่กระแทกตูดอีกครั้งหนึ่ง เฮ้อ มีความสุขจัง
XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX
ผมเว้นช่วง 2-3 วัน จึงลอง ๆ ไปนั่งที่ศาลาที่เดิมอีก นั่งอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ไม่มีเหยื่อเข้ามาที่ศาลานี้เลย ผมจึงนึกถึงพี่อาวุธที่เป็นยามของโรงเรียนขึ้น หน่วยก้านของพี่เขาก็ไม่เลวนัก อันที่จริงน่าจะเรียกว่าดีมากกว่า ผมจึงเดินออกจากศาลาไปที่ป้อมยามของโรงเรียน แต่คนที่นั่งอยู่ในป้อมไม่ใช่พี่อาวุธ ตอนแรกผมคิดว่าจะหันหลังกลับ แต่พี่ยามคนนั้นได้ถามขึ้น
“มีอะไรให้ช่วยครับ”
“เออ..คือผมมาหาเพื่อนหนะครับ เขาเฝ้ายามอยู่ที่นี่แหละ”
“อ๋อ...ไอ้วุธ วันนี้มันพัก คือที่นี่มียามสองคน วันนี้เป็นเวรผม”
“ขอบคุณครับ งั้นผมไม่รบกวนแล้วครับ”
“มีธุระอะไรกับมันหรือเปล่าหละ”
“คือผมเป็นเพื่อนแกหนะครับ ผ่านมาก็เลยจะมาคุยด้วยเฉย ๆ”
“เข้าไปหามันก็ได้ บ้านพักมันอยู่ข้างในโรงเรียน คุณเดินตรงไปนะ อยู่หลังสุดติดกำแพง มีบ้านพักหลังเดียวเท่านั้นแหละ ตอนนี้ยังหัวค่ำอยู่ มันคงยังไม่นอนหรอก”
“ขอบคุณครับ” ผมตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเข้าไปดีหรือเปล่า เพราะจะว่าไปแล้ว ผมก็ไม่ได้สนิทสนมกับแกอะไรมากมาย เพียงแต่ผมรู้สึกว่าแกเป็นคนอัธยาศัยดี และเป็นคนมีน้ำใจ ก็เลยคิดเลยเถิดไปหน่อยเท่านั้นเอง แต่ใจหนึ่งก็คิดว่า ไม่เห็นเป็นไรเลย เพราะวันนั้นก็เกริ่นกับแกไว้แล้ว ว่าจะแวะมาคุยด้วย หากไม่เวิร์คก็กลับเท่านั้นเอง “อันของสูงแม้นปองต้องจิต หากไม่คิดปีนป่ายจะได้หรือ” ผมจึงเดินเข้าไปจนถึงบ้านหลังดังกล่าว ลักษณะเป็นบ้านไม้หลังกะทัดรัด เป็นบ้านชั้นเดียว ใต้ถุนสูง ไฟบนบ้านยังเปิดอยู่แสดงว่าแกยังไม่หลับ ผมเดินไปจนถึงบันใดขึ้นบ้าน ตอนแรกจะถือวิสาสะ เดินขึ้นไป แต่เอ๊ะ...เราก็ไม่ได้สนิทกับแกถึงขนาดนั้น จึงตัดสินใจเรียก
“พี่วุธครับ พี่วุธ อยู่หรือเปล่าครับ”
“ครับผม...อยู่นี่ครับ กำลังจะอาบน้ำ” อาบน้ำ...ได้ยินคำนี้ รู้สึกเสียววาบที่หัวควย อะไรจะโชคดีป่านนั้น พงศ์ดนัย ผมเดินไปตามเสียงที่ดังมาจากหลังบ้าน ก็ได้พบกับภาพอันชวนสยิว ก็พี่อาวุธ นุ่งกางเกงในตัวเดียวกำลังจะอาบน้ำ แกหันมาทางผม
“พงศ์นั่นเอง มาอาบน้ำเหรอ”
“เปล่าครับพี่ ผมอาบมาจากโรงบาลแล้ว พอดีวันนี้คนไม่เยอะ ตั้งใจว่าจะมานั่งคุยเป็นเพื่อนพี่ ไม่ทราบว่าวันนี้พี่งานพัก งั้นผมไม่รบกวนหละพี่” อันที่จริงพูดตามมารยาทเฉย ๆ หวังจะให้แกบอกว่าไม่เป็นไร แต่ถึงแกไม่พูดอย่างนี้ผมก็คงหาทางอยู่คุยจนแกอาบน้ำเสร็จนั่นแหละ สวรรค์กำลังรออยู่ข้างหน้า เรื่องอะไรจะหนีไปง่าย ๆ และเหตุการณ์ก็เป็นไปอย่างที่ผมตั้งใจจะให้เป็น เมื่อพี่อาวุธพูดขึ้น
“ถ้าไม่รีบไปเฝ้าไข้ ก็อยู่คุยกันก่อนก็ได้ ไม่ถือว่าเป็นการรบกวนหรอก ขอพี่อาบน้ำก่อน แล้วจะเปิดหนังเอ็กซ์ให้ดู พอดีวันนี้พี่สิน คนที่มาเปลี่ยนเวรกับพี่วันนี้นั่นแหละ แกได้หนังใหม่มา เป็นหนังไทยในแนวที่พี่ชอบซะด้วย แกบอกว่านางเอกโคตรน่ากินเลย”
พอผมได้ยินว่าพี่แกจะดูหนังเอ็กซ์ ผมแทบจะร้องไชโยออกมาดัง ๆ ก็แหมผู้ชายดูหนังเอ็กซ์ อะไรที่ว่ายากมันก็คงจะง่ายเข้า ยิ่งถ้ามีเหล้าเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแล้ว สวรรค์ชัด ๆ เลย พงศ์ดนัยเอ๊ย
“ดีเลยพี่ งั้นพี่รีบอาบน้ำเถอะครับ” นับเป็นโชคของผมอย่างมากเลย ที่พี่วุธไม่ได้อาบน้ำในห้องน้ำ ที่อาบน้ำของแกจะแยกจากห้องน้ำ โดยใช้โอ่งลายมังกรรองน้ำจากก๊อก และก็อยู่มุมหลังบ้านติดกำแพงรั้ว ถ้าไม่ตั้งใจมาก็จะมองไม่เห็น พี่อาวุธตักน้ำในโอ่งราดตัว ผมเดินไปยืนใกล้ ๆ แก เพื่อจะได้มองเป็นชัด ๆ และก็ถามนั่นถามนี่ไปเรื่อย ๆ ส่วนสายตาก็มองสำรวจเรือนร่างของแกด้วยความเสน่หา พี่อาวะรูปร่างดีมาก ไม่ได้ตัวใหญ่เหมือนน้องคำพัน ผิวคล้ำเหมือนกรรมกรทั่ว ๆ ไป แขน-ขาดูใหญ่ ยิ่งตรงแขนดูเส้นเอ็นขึ้นปูดโปนและมีรอยแผลเป็นเล็ก ๆ เต็มไปหมด ต้นขาของแกก็ดูอวบใหญ่ เหมือนคนที่ต้องใช้กำลังขาอยู่ตลอดเวลา มองไปที่กลางลำตัววันนี้แกนุ่งกางเกงในสีเทา และคงใช้งานมานานแล้วเพราะมันดูเก่าจนยางยืดที่หัวและที่ขายืดหมดแล้ว และยังมีรูขาดอีกหลายรู ยามมันเปียกน้ำ มันจึงแนบกับลำตัว มองเห็นท่อนควยได้ชัดมาก และท่อนควยของแกที่ซ่อนอยู่ภายใต้กางเกงในตัวเก่านั้นคงใหญ่น่าดู ยามแกตักน้ำราดตัว ยางที่รัดตรงหัวกางเกงในถูกรั้งลงมาจนแทบหลุด ถ้าไม่มาติดที่ท่อนควยแกไว้ เวลาที่แกฟอกสบู่มือแกรั้งกางเกงในลงไป จนมองเห็นกลุ่มหมอยที่ดกดำ แถมขากางเกงก็กว้างจนมองลอดเข้าไปเห็นกะโปกพวงใหญ่แกว่งไกวไปมา ผมมองแกอาบน้ำด้วยความเพลิดเพลิน จนแกอาบเสร็จ
“ไป...ขึ้นไปบนบ้านกัน” ผมเดินตามพี่อาวุธขึ้นไปบนบ้าน ข้างบนไม่ได้กันห้อง ไม่ว่าจะเป็นห้องแต่งตัว ห้องนอน หรือห้องดูทีวีจะอยู่ในห้องเดียวกัน ส่วนที่นั่งเล่นของแกจะอยู่ที่ใต้ถุนบ้าน “บ้านรกหน่อยนะพงศ์ บ้านคนโสดก็อย่างนี้แหละ ความจริงบ้านนี้เป็นบ้านพักครู แต่เนื่องจากว่าอาจารย์ที่สอนอยู่ที่นี่ต่างก็มีบ้านก้นหมดแล้ว มันจึงถูกปล่อยร้างไว้หลายปี ตอนพี่มืทำงานที่นี่ใหม่ ๆ ท่าน ผอ.จึงซ่อมแซมให้พี่อยู่ จะได้ประหยัดค่าเช่าบ้าน”
“แล้ว...พี่ยังไม่มีครอบครัวเหรอครับ”
“อ๋อ มีแล้วครับ มีลูกสองคนแล้ว บ้านพี่อยู่ที่อำเภอภูเรือ”
“พี่ไม่เอาเมียกับลูกมาอยู่ด้วยหละครับ”
“มาไม่ได้หรอก เพราะที่บ้านมีสวนลิ้นจี่ และก็ทำไร่นาสวนผสมด้วย เขาต้องดูแลทางโน้น พี่อยู่ที่นี่ก็เก็บเงินเดือนไว้ พอถึงฤดูเก็บเกี่ยว หรือตัดแต่งกิ่งรวมถึงเรื่องอื่น ๆ ก็ได้อาศัยเงินเดือนของพี่นี่แหละ เป็นค่าจ้างแรงงาน ส่วนเงินที่ขายผลผลิตได้ก็เก็บฝากธนาคารไว้ทั้งหมด ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพแต่ละวันของที่บ้านก็เจียดจากเงินเดือนของพี่เหมือนกัน”
“ว้า..อย่างนี้แล้วเมื่อไหร่พี่ถึงได้กลับบ้ายหละครับ”
“ก็ตอนสิ้นเดือนครับ” พี่อาวุธคุยไป พลางเปิดซีดีไปด้วย ตอนนี้แกเปลี่ยนจากผ้าขนหนูที่นุ่งมาจากข้างล่าง เป็นผ้าขาวมา และผมก็สังเกตว่าแกไม่ได้นุ่งกางเกงใน
“พี่คงเหงาน่าดูเลยนะ”
“มันก็มีบ้าง บางทีเหงามาก ๆ พี่ก็ได้สิ่งนี้แหละเป็นเพื่อน” พี่อาวุธเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบขวดโค๊กที่มีน้ำสีแดงเข้ม เทลงแก้วยกขึ้นดื่ม แล้วทำหน้าเบ้
“อะไรพี่”
“ยาดวงเหล้า เสือสิบเอ็ดตัว กินแล้วปึ๋งปั๋งน่าดู” พูเสร็จก็เทใส่แก้วยกขึ้นดื่มอีก “กินไอ้นี่แล้วเลือดลมมันสูบฉีดแรงดีแท้ เอาซักหน่อยมั๊ย”แกเทใส่แก้วส่งให้ผม ผมยกขึ้นจิบดู มันออกหวานนิด ๆ แต่ก็ยังคงความแรงของดีกรีเหล้าขาวอยู่ ผมยกขึ้นดื่มจนหมด รู้สึกร้อนคอวาบ ตอนนี้หนังที่จอทีวีเริ่มไตเติ้ลแล้ว
“นอนดูก็ได้นะพงศ์” พี่อาวุธลากฟูกเก่า ๆ มาให้ผมนอน ส่วนตัวแกยังคงนั่งก๊งเหล้าอยู่ใกล้ ๆ ผมล้มตัวลงนอน รู้สึกถึงกลิ่นตัวสาบ ๆ ของพี่อาวุธที่ยังคงติดอยู่ที่หมอน และที่ฟูกนั้น ตอนนี้ต่อมเซ็กส์ของผมเริ่มทำงานอีกแล้ว และที่จอทีวีหนังก็กำลังดีทีเดียว นางเอกกำลังดูดควยพระเอกอย่างเอาเป็นเอาตาย ผมเหลือบมองไปทางพี่อาวุธ เห็นเหล้าพร่องไปเกือบครึ่งขวด และรู้สึกว่าแกเริ่มเมาแล้ว เพราะรู้สึกว่าแกวิพากวิจารณ์หนังได้อย่างออกรส ตอนนี้แกเลิกกินเหล้าเหล้าหันมาจ้องหนังตาเขม็ง และแกก็ล้มตัวลงนอนข้าง ๆ ผม โดยหนุนหมอนใบเดียวกับผมด้วย เนื่องจากฟูกก็ไม่ได้มีเนื้อที่เยอะเท่าไหร่ ผมกับพี่แกจึงนอนเบียดเสียดกัน แขนของพี่อาวุธจึงเสียดสีกับแขนของผม ผมรู้สึกถึงความสากของท่อนแขนของแก
“นางเอกหีใหญ่ซิบหายเลย อย่างนี้ได้ซักทีจะเย็ดทั้งวันทั้งคืนเลย” พี่แกวิจารณ์ไป ส่วนมือก็ลูบไล้อยู่ที่ควย และเมื่อ แกหยุดลูบ ผมก็รู้สึกว่าผ้าขาวมาของแกจะตุงขึ้นอย่างมาก ผมจ้องมองพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคอ
“พี่เงี่ยนเหรอครับ”
“ฮื่อ..น้ำไม่ออกมาสองวันแล้ว ยิ่งได้เจ้ายาดองนั่นเข้าไป ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่เลย”
“ผมว่าวันนี้ถ้าไม่มีผมอยู่ด้วย พี่ต้องดูไปด้วยชักว่าวไปด้วยแน่นอนเลย”
“มันของตายอยู่แล้ว ผู้ชายร้อยทั้งร้อยเวลาดูหนังเอ็กซ์คนเดียวต้องชักว่าวตามแน่นอน”
“ที่จริงถึงผมอยู่ด้วยพี่ก็ชักว่าวได้นี่ครับ ไหนขอดูหน่อยพี่ ผมเห็นผ้าขาวม้าพี่ตุงมาก ควยพี่คงใหญ่มากเลย” ผมไม่รอแกอนุญาตให้โง่หรอก ผมเอื้อมมือไปดึงผาขาวม้าแกออก พอผ้าขาวม้าหลุด ควยดุ้นใหญ่ก็ปรากฏแก่สายตาของผม มันนอนแนบกับหน้าท้อง ชี้หัวไปทางสะดือ ด้วยความยาวของมันส่วนหัวควยของแกยาวเลยสะดือขึ้นไป ความใหญ่ไม่ต้องพูดถึงประมาณว่าเกือบเท่าข้อแขนของผม ตามลำควยสีคล้ำมองเห็นเส้นเอ็นขึ้นปูดโปน กะโปกพวงใหญ่อัดแน่นจนเต็มหว่างขา ไข่ใบเขื่องทั้งสองใบวิ่งขึ้น-ลง ตามแรงหายใจของแก ขนหมอยสีดำเข้มปกคลุมจนดูดำไปหมด มืออันสั่นเทาของผมเอื้อมไปกำควยท่อนใหญ่ไว้ มันใหญ่จนมือผมกำไม่รอบ แข็งเหมือนท่อนไม้ดี ๆ นี่เอง
“ควยพี่แข็งมากเลยพี่ สงสัยมันคงอยากมุดถ้ำมาก แต่เสียดายเนอะแถวนี้ไม่มีถ้ำให้มุด” พูดไปมือที่กำควยอยู่ก็ถอกไปด้วย ส่วนพี่อาวุธทั้งกระเด้าสวนขึ้น ทั้งซี๊ดปาก
“ซี๊ด...มีสิ...ทำไมจะไม่มี”
“ไหนหละพี่”
“ก็ถ้ำของพงศ์ไง”
“พูดเป็นเล่นไป ว่าแต่พี่จะเข้าจริง ๆ หรือเปล่าหละ” สิ้นคำของผมพี่วุธ พลิกตัวขึ้นมาทับที่ตัวของผม พร้อมกับดึงเสื้อผ้าผมออกจากตัวอย่างรวดเร็ว จนผมเหลือแต่ตัวล่อนจ้อน เหมือนกับตัวแก จากนั้นแกก็เริ่มจูบไซ้ไปตามตัวของผม ฝ่ามืออันหยาบหนาและร้อนผ่าวของแก กึ่งลูบกึ่งบีบขยำไปตามเนื้อตัวของผม ความสากของฝ่ามือแก เพิ่มความซ่านเสียวให้ผมเป็นทวีคูณ ผมรู้สึกเสียวมาก แต่ก็ดัดจริตถามแกไปด้วยน้ำเสียงที่ตะกุกตะกัก
“พะ..พพ..พี่..วู..พี่วุธ อะ..เอาจริง เหรอ..ครับ..”
“จริงสิครับ พี่เคยเป็นหทารเกณฑ์ เป็นทหารพรานมาก่อน เรื่องแบบนี้พี่ผ่านมาหมดแล้ว พี่รู้ว่าพงศ์คิดยังไงกับพี่ พี่เริ่มสงสัยตั้งแต่พงศ์พาสองหนุ่มนั่นมาอาบน้ำแล้วหละ”
“เกลียดนัก คนรู้ทัน” ผมค้อนให้พี่วุธวงใหญ่ พร้อมกับตีที่ก้นแกสองสามที เป็นเหตุให้แกกดสะโพกลงมา และตอนนี้ควยท่อนใหญ่ของแกก็เสียดสีอยู่กับท่อนควยใหญ่ของผม ขนหมอยหยาบของแก เบียดเสียดอยู่บริเวณหัวเหน่าของผม ตอนนี้พี่วุธจูบไซ้อยู่บริเวณซอกคอของผม หนวดเคราสาก ๆ ของแกทิ่มตำอยู่ตามซอกคอของผม เพิ่มความเสียวซ่านอีกเท่าตัว พี่วุธเสือกตัวขึ้นไปเรื่อย ๆ ตอนนี้ ควยใหญ่ของแกขึ้นทิ่มตำอยู่ตรงปากและคางของผม บางทีหัวถอกอันบานใหญ่ก็ชนกับจมูกของผม ได้กลิ่นคาวนิด ๆ ของน้ำควยที่ซึมเยิ้มอยู่ตรงปลายถอก มือขวาของผมกำท่อนควยไว้ ส่วนมือซ้ายก็ขยำอยู่ตรงกะโปกพวงใหญ่ พี่วุธโหย่งตัวขึ้นเหมือนรู้งาน ผมใช้ลิ้นเลียวนไปตามหัวควย ขบกัดที่เงี่ยงค่อนข้างแรง จนพี่แกดึงตูดหนี แต่ก็กดลงมาใหม่ ผมลากลิ้นไปตามลำควย และดูดไข่ใบเขื่องทั้งสองลูกสลับกัน และก็ลากลิ้นเลียไปตามลำควยขนถึงหัวถอกอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับอ้าปากอมควยใหญ่ไว้และเริ่มต้นดูด ส่วนพี่อาวุธกดตูดกระเด้าปับ ๆ
“อูย..เสียวควยจัง พงศ์ดูดดีมากเลย แรง ๆ ครับ อย่างนั้นแหละ เสียวหัวควยจังเลย” ปากของผมดูดควยแกไปเรื่อย ๆ ส่วนพี่วุธก็กระแทกควยใหญ่ใส่ปากผม สักพัก จึงโหย่งตัวขึ้นดึงควยออก และแกก็จับผมนอนคว่ำลง จับเอวผมดึงขึ้น ผมรู้ว่าแกจะทำอะไร จึงแอ่นตูดขึ้น พี่วุธแบะขาผมออก พร้อมกับเอาน้ำลายใส่มือมาลูบที่รูตูดผม
“พงศ์แบะขาออกอีกนิดหนึ่งนะจ๊ะ พี่จะเอาควยใหญ่กระแทกแล้ว”
“ได้เลย ครับพี่ เสียบควยลงมาเลย ผมพร้อมแล้ว” พี่วุธกดตูดดันควยเข้า ตอนนี้ควยท่อนใหญ่ค่อย ๆ ครูดรูตูดผม เข้าไปเรื่อย ๆ ผมเสียววาบ ๆ พี่วุธกดควยเข้าจนมิด ผมทั้งตึงแน่น ทั้งเสียว เมื่อควยเข้ามิดลำแล้ว พี่วุธเริ่มกระเด้า ค่อนข้างแรง การกระเด้าของแกแต่ละครั้ง มันทำให้ตัวของผมเสือกไปข้างหน้า จนหัวผมมาชนกับประตู ผมจึงถอดกลอนเปิดมันออก
“เปิดออกเลยพงศ์ ตรงนี้อยู่ติดถนน ไป...พี่จะพาพงศ์ไปยืนเย็ดกันตรงระเบียง” ผมไม่ได้คัดค้านการกระทำของพี่วุธ แต่รู้สึกอยากลองดู พี่วุธดึงตัวผมให้ยืนขึ้นโดยที่ไม่ถอดควยออก แกดันตัวของผมให้เดินออกไปข้างนอกห้อง มองลงไปข้างล่างห่างไม่ไม่เกินยี่สิบเมตร จะเป็นถนน มีรถวิ่งไปมาตลอดเวลา ผมยืนโก้งโค้งเกาะราวระเบียง แอ่นตูดให้พี่วุธกระแทกควยเข้าตูด เสียงดังผับ ๆ แสงไฟจากเสาไฟฟ้าข้างทางส่องมากระทบตัวเราสองคน ถ้าคนที่อยู่ในรถหยุดรถแล้วมองขึ้นมาก็จะรู้ว่าเรากำลังยืนเย็ดกันอยู่ แต่ทั้งผมและพี่วุธกลับไม่รู้สึกกลัวคนเห็น หรือถึงเห็นก็ไม่รู้สึกอาย แถมยังรู้สึกเสียวมากขึ้นกว่าเดิม เรายืนเย็ดกันตรงระเบียงจนหนำใจแล้ว จึงชวนกันเข้าไปในบ้าน พี่วุธถอดควยออก แล้วดันตัวผมไปพิงฝาผนัง แกจับขาซ้ายของผมห้อยไว้ที่แขนขวาของแก จากนั้นแกก็ย่อตัวลง จับควยจ่อแล้วกดสะโพกดันควยเข้ามา เมื่อควยเข้าจนมิดแล้ว แกจึงเริ่มกระเด้า
“อูย...ตูดพงศ์ฟิตแน่นดีจัง พี่เสียวหัวควยมากเลย บางทีเย็ดหีก็ไม่เสียวขนาดนี้” พูดเสร็จพี่วุธก็ประกบปากลงมาที่ปากผม ลิ้นอันชำนาญงานของแกก็ซอกซอนเข้ามาในปากของผม ผมอ้าปากรับ เราแลกลิ้นกันอย่างซ่านเสียว ส่วนตูดของแกก็กระเด้าควยเข้าตูดผมทั้งแรงและเร็ว ผมรู้สึกเหมือนน้ำจะแตก สองมือบีบขยำอยู่ตรงแก้มก้นของแก
“พีวุธ กระเด้าแรง ๆ ครับ ผม..ผมจะเสร็จแล้วครับ ผมไม่ไหวแล้วครับ อูย ..โอ๊ย..เส..เสร็จแล้วครับ น้ำ..น้ำผมออกแล้ว” และน้ำควยของผมก็พุ่งออกมากระทบกับหน้าท้องของพี่วุธอย่างแรง ส่วนพี่วุธก็คงเต็มทนเหมือนกัน แกเร่งซอยบั้นเด้ายิก ๆ มือสากของแกก็บีบขยำอยู่ที่แก้มก้นของผม จนรู้สึกเจ็บ
“พงศ์ พี่..พี่ก้อ..พี่ก็ไม่ไหวแล้ว เสียว..เสียวมากเลย น้ำเย็ดพี่จะออกแล้ว โอ๊..ออกแล้ว พงศ์นอนลง” ผมไม่ทันได้คิดว่าแกให้ผมนอนลงทำไม แต่ผมก็ทำตามอย่างว่าง่าย พอผมนอนหงายลงที่พื้นห้อง แกก้าวขายืนคร่อมตัวผมไว้ มือแกก็ชักควยยิก ๆ แกหลับตา แหงนหน้าซี๊ดปาก ในขณะที่น้ำควยของแกพุ่งออกมา เลอะตามตามของผม เมื่อเห็นว่าน้ำควยของแกออกหมดแล้ว ผมจึงดึงตัวขึ้น คว้าควยแกเข้าปาก ดูดดุนจนเกลี้ยง พี่วุธล้มตัวลงนอนกอดผมไว้แน่น
“ขอบใจมากนะพงศ์ ขอบใจจริง ๆ พี่เสียวมากเลย พงศ์ทำให้พี่มีความสุขมาก ผมกอดตอบแก แล้วเราก็จูบกันอย่างดูดดื่มอีกครั้งหนึ่ง แล้วผมก็โดนพี่วุธเย็ดอีกครั้ง อูย...เสียว
ช่วงที่สำนักงานของผมไปเปิดสาขาที่จังหวัดเลย ผมในฐานนะพนักงานเก่าแก่ ก็ได้มีโอกาสไปร่วมจัดระบบ ต่าง ๆ ให้เข้ารูปเข้ารอย โดยบริษัทได้เช่าอพาร์ตเมนท์ให้อยู่และผมก็อยู่คนเดียว ตอนกลางคืนผมก็ออกจากที่พักไปตามทางที่ผมชอบอยู่แล้ว แต่แทนที่ผมจะท่องเทียวไปตามสถานบันเทิงต่าง ๆ เหมือนผู้ชายทั่ว ๆ ไป ผมกลับจ้างสามล้อให้พาตระเวนไปตามซอกซอยต่าง ๆ และผมก็ได้สถานที่คิดว่าเหมาะที่สุด และคิดว่าไม่วันนี้ก็วันหน้า สิ่งดี ๆ ต้องเกิดขึ้นกับตัวผมอย่างแน่นอน ที่ ๆ ผมว่านี้ เป็นศาลาริมทางอยู่ข้างโรงเรียนแห่งหนึ่ง และที่ตรงนี้ก็ได้รับความสว่างจากหลอดไฟข้างทาง ซึ่งก็ไม่ได้สว่างมากมายนัก เรียกได้ว่า เหมาะที่จะทำอะไรลับ ๆ ล่อ ๆ ได้อย่างสบาย ผมบอกให้คนขับสามล้อจอด และก็เข้าไปนั่งเล่นข้างในศาลา สายตาก็สอดส่ายหาเหยื่อไปเรื่อย ๆ และผมก็ได้เห็นว่าฝั่งตรงกันข้าม เยื้องไปประมาณร้อยเมตร เป็นโรงพยาบาล ผมนึกอยากให้มีผู้ชายที่มาเฝ้าไข้มานั่งเล่นแถวนี้บ้าง อย่างอื่นค่อยว่ากันอีกทีหนึ่ง ผมนั่งอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง ความหวังของผมก็ดูเหมือนจะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา เมื่อผมเห็นผู้ชายสองคนเดินข้ามถนนมุ่งตรงมาทางศาลาที่ผมนั่งอยู่ ผมจึงล้มตัวลงนอนและแกล้งหลับ พอทั้งคู่เดินเข้ามาในศาลา ผมจึงหรี่ตาขึ้นมองและคิดว่าความสว่างอันน้อยนิด คงจะไม่ทำให้พวกเขาสังเกตได้ว่าผมกำลังให้ความสนใจพวกเขาอยู่ และผมก็ได้เห็นว่า อาคันตุกะที่เข้ามาเยือน เป็นชายต่างวัยกัน คนที่สูงวัยกว่า อายุคงไม่เกินสามสิบห้า หรือสี่สิบต้น ๆ ส่วนคนที่อายุน้อยกว่าอายุก็ไม่น่าจะเกินยี่สิบปี เขาทั้งสองนั่งลงที่ม้ายาวฝั่งตรงข้ามผม ค่อนไปทางปลายเท้าของผม จึงทำให้ผมมองเห็นเขาทั้งคู่ได้ค่อนข้างชัดเจน
“ฮ้อนจังเนาะ ผ่อ” คนที่อายุน้อยกว่าพูดขึ้น เป็นภาษาที่ผมค่อนข้างคุ้นเคย เพราะผมอยู่ขอนแก่นหลายปี แต่สำเนียงก็ดูแปร่ง ๆ อาจจะเป็นภาษาของคนที่นี่ก็ได้
“นั่น แน่ว ฮ้อนอีหลี แก้เสื้อดีกว่า” ชายที่ถูกเรียกว่า “ผ่อ” หันมองมาทางผมแว๊บหนึ่ง ก่อนที่จะตัดสินใจถอดเสื้อออก และก็โบกไปมาเหมือนใช้เสื้อเป็นพัด ผมปรือตาขึ้นค่อนข้างกว้าง โอ้ โห! ตัวล่ำบึ๊กเลย แม้จะดูท่าทางเป็นชาวบ้านแต่ก็น่าสนใจไม่น้อย
“ข้อยกะแก้เสื้อบ้างดีกว่า ฮ้อนตัวเหนียวหมดเลย” แล้วผู้ที่อายุน้อยกว่าก็ถอดเสื้ออก ทำให้ผมได้มองเห็นรูปร่างที่ยั่วน้ำลายของทั้งคู่พร้อม ๆ กัน และจากบทสนทนาของทั้งคู่ก็ทำให้ผมพอจะทราบว่า ทั้งสองคนเป็นพ่อลูกกัน มาจากประเทศลาว พาเมีย(แม่ของลูก)มาผ่าไส้ติ่ง
“มึงบ่อทันได้อาบน้ำเถื่อตี”
“บ่อ..คนเข้าคิวหลายจัง คืนนี้ถ้าไม่ได้อาบน้ำคงนอนยากน่าดูเนอะอิผ่อ”
“รอถ้าดึก ๆ ให้คนอาบหมดก่อน จั่งอาบ” ทั้งสองสนทนากันถึงบ้านที่จากมา และอีกหลายเรื่องที่ทั้งคู่นำมาสนทนากัน ผมคิดว่าขืนนอนฟังเขาทั้งสองคุยกันอยู่อย่างนี้ แล้วความฝันจะเป็นจริงได้อย่างไร ถึงแม้จะเป็นคนจากประเทศลาว แต่ถ้ารูปร่างดีได้ขนาดนี้ ก็ไม่เลว และอีกอย่าง ผมคิดว่าความเป็นชาวบ้านของเขา คงทำให้คนกะล่อนอย่างผม ตะล่อมได้ไม่ยากนักหรอก ผมจึงยันตัวลุกขึ้น พลางบ่นงึมงัม
“ร้อนจัง”ผมเว้นช่วง และหันไปชวนพวกเขาคุย “ร้อนมั๊ยครับ”
“ฮ้อนอยู่..ฮ้อนหลาย”
“มานั่งเล่นเหรอครับ”
“อ๋อ บ่ดอก มาเฝ้าไข้ ข้อยพาเมียมาผ่าไส้ติ่ง เฮือนพักญาติคนหลาย แออัด เลยพาลูกมานั่งเล่น รอให้คนอาบน้ำหมดก่อนจึงจะไปอาบน้ำ-นอน แต่บ่ฮู้ว่าอีกนานเท่าใด๋ มื้อนี้ คนมาโรงบาลหลายจัง” ผู้เป็นพ่อตอบคำถามของผมค่อนข้างยืดยาว เหมือนจะผูกมิตรอยู่ในที และฝ่ายลูกชายก็ยิ้มให้ผม พร้อมกับเสริมขึ้น
“อากาศร้อนจังพี่ ตัวเหนียวหนึบเลย ถ้าไม่ได้อาบน้ำคงนอนลำบากน่าดู” เอ๊ะ! ลูกชายพูดภาษาไทยได้ค่อนข้างชัด แม้สำเนียงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ผมได้โอกาสจึงลุกขึ้นไปนั่งม้าแถวเดียวกับสองพ่อลูก และก็ชวนคุยนั่นคุยนี่ เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับพวกเขา แต่ส่วนใหญ่ผมจะเป็นฝ่ายฟังซะมากกว่า และผมก็ได้ทราบชื่อของทั้งคู่ ผู้เป็นพ่อชื่อเสิน ส่วนลูกชายชื่อคำพัน บ้านอยู่ที่เมืองแก่นท้าว ประเทศลาว เมืองนี้เปรียบเหมือนอำเภอหรือเขตของบ้านเรา และก็อยู่ไม่ไกลจากอำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย ซึ่งมีแม่น้ำเหืองเป็นพรมแดน แต่ทั้งสองฝั่งอยู่กันเหมือนเป็นคนบ้านเดียวกัน เพราะแม่น้ำเหืองเป็นแม่น้ำที่ไม่ค่อยลึก โดยจะเดินข้ามไปมาหากันได้สบาย ๆ
“พี่เสินดูยังไม่แก่เลย ทำไมมีลูกโตเป็นหนุ่มแล้วหละครับ” พี่แกหัวเราะแบบเขินนิดหนึ่ง ก่อนจะอ้อมแอ้มตอบแบบไม่เต็มเสียงนัก
“บ่ ฮู้ แถวบ้านกะมีลูกเป็นหนุ่มเป็นสาวแล้วคือกัน ลางคนอายุน้อยกว่าเฮาอีก ยังมีหลานแล้ว สงสัยเอาเมียแต่น้อย (แต่งงานแต่อายุยังน้อย)”
“พี่แต่งงานตอนอายุเท่าไหร่ครับ”
“สิบเจ็ด ตอนนี้เฮา อายุสามสิบเจ็ด คำพัน อายุ ได้ซาวปี (20 ปี) แล้ว”
“คำพัน พูดภาษาไทยได้ค่อนข้างดี เคยมาอยู่เมืองไทยเหรอ” ผมไม่เคยปล่อยอะไรให้ค้างคาใจอยู่แล้ว
“อ๋อ...ผมเคยไปทางานที่กรุงเทพครับ ตอนนี้กลับมาบ้านเพื่อดูแลแม่ เดี๋ยวพอแม่ค่อยยังชั่วแล้ว ผมจะกลับไปทำงานที่กรุงเทพอีก” ผมขยับเข้าไปใกล้หนุ่มน้อยจากประเทศลาว จนเข่าแทบเกยกัน กลิ่นสาบสางของหนุ่มวัยกำดัด ลอยมาเตะจมูกเรียกน้ำเงี่ยนได้ดีทีเดียว มือผมตบลงที่ท่อนขาของคำพันพร้อมกับขยำเบา ๆ และยิ้มให้แบบเดายาก
“รูปหล่ออย่างนี้ แต่งงานหรือยังหละ คำพัน”
“จะแต่งปีหน้าครับ”
“ได้ลูกสะใภ้ที่ไหนหละพี่เสิน”ผมรู้สึกเลี่ยนกับคำพูด รวมทั้งกริยาท่าทาง ที่ดูสนิทสนมกับสองพ่อลูกนี้เกินเหตุของผมจัง ทั้ง ๆ ที่ผมเพิ่งจะรู้จักพวกเขาได้ไม่ถึงชั่วโมงเลย แต่ผมยักไหล่ให้กับตัวเอง พลางคิดว่า แล้วแต่ใครจะคิด คนเราหว่านพืชก็ย่อมหวังผลอยู่แล้ว
“เพิ่นเป็นคนเมืองหลวง (หลวงพระบาง) เป็นลูกคนมีเงิน เพิ่นมามัก (ชอบ) เฮาเอง”
“ก็แน่หละซี รูปหล่ออย่างนี้ ถ้าผมเป็นสาว ผมก็ชอบเหมือนกัน” เปิดเผยเกินไปหรือเปล่า คุณพงศ์ดนัย ก็ช่าง ของแบบนี้มันต้องลองหยั่งเชิงกันดูก่อน ขืนบุ่มบ่าม คิดว่าหมูในอวย เกิดเขาไม่เล่นด้วย นอกจากจะไม่ได้แอ้มแล้ว ยังต้องขายหน้าชาวบ้านชาวช่องเขาอีก ผมพูดจบก็หลิ่วตาล้อเลียนน้องคำพัน แบบเยิ้มนิด ๆ มือที่จับต้อนขาเขาอยู่ก็ลูบไล้ไปมา และถ้าไม่เป็นการเข้าข้างตัวเองจนเกินไป ผมสังเกตได้ว่า น้องคำพันก็พอจะเข้าใจความหมายผมอยู่บ้าง เพราะเห็นยิ้มตอบมาแบบรู้กัน พร้อมกับเอามือมาวางไว้บนหลังมือของผม ที่วางอยู่บนต้นขาของเขา และพูดแบบถ่อมตัวนิด ๆ
“อย่างผมนี่นะพี่ รูปหล่อ”
“ก็ใช่ซี แม้มันจะไม่หล่อถึงขนาดดารา แต่รวมแล้วก็ดูดี ตัวก็ใหญ่ แถมพูดจาดี รูปร่างแบบนี้เตะตาเพศตรงกันข้ามได้อย่างดีเลยหละ คำพันสูงเท่าไหร่หละ”
“175 เซนติเมตรครับ”
“ดูสูงกว่าพ่อมากเลย แต่ความล่ำคงพอ ๆ กัน หรือพ่ออาจจะล่ำกว่า เออ ! เมื่อกี้เห็นพากันบ่นว่าเหนียวตัว อยากอาบน้ำใช่มั๊ย”
“แม่นหละ แต่ห้องอาบน้ำไม่ว่างสักเทื่อ นี่ก็ทิ้งให้แม่ไอ้คำพันอยู่คนเดียวตั้งนานแล้ว กะว่าอาบน้ำเสร็จก็จะขึ้นไปนอนเฝ้าเลย แต่ก็บ่ฮู้ตอนใด๋สิได้อาบ คำพันขึ้นไปหาแม่ก่อนไป๊ ผ่อถ้าอาบน้ำก่อนจั่งสิขึ้นไปเปลี่ยน อาบเสร็จมึงก็ไปนอนที่เฮือนพักญาติเลยเด้อ มื้อนี้ผ่อสินอนเฝ้าแม่เอง”
“เขาให้เฝ้าได้คนเดียวเหรอครับ”
“ใช่ พี่”
“เอาอย่างนี้ดีมั๊ย ขืนพี่รออาบน้ำที่ห้องอาบน้ำของโรงพยาบาล ไม่รู้เมื่อไรจะได้อาบ ในโรงเรียนข้าง ๆ ศาลาเนี๊ยะมันน่าจะมีห้องน้ำ เดี๋ยวผมจะพาไปขอเขาอาบ คงมียามเฝ้าอยู่ตรงประตูทางเข้า คิดว่าเขาคงให้อาบ คำพันขึ้นไปดูแม่ ให้พ่ออาบก่อนดีมั๊ย”
“ดีเลยพี่ งั้นข่อยขึ้นไปหาอีแหม่ก่อนเด้อผ่อ เจ้าอาบเสร็จแล้ว ค่อยขึ้นไปเปลี่ยนข่อย”น้องคำพันเดินออกจากศาลาตรงไปที่โรงพยาบาล ผมแอบยิ้มในหน้า คิดว่าคืนนี้อย่างน้อยที่สุด ผมต้องได้เห็นสองพ่อลูกนี่นุ่งกางเกงในอาบน้ำอย่างแน่นอน ผมพาพี่เสินไปที่หน้าประตูโรงเรียน เห็นมีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่หน้าประตู ผมใช้เวลาเจรจาไม่กี่คำ พี่ยามก็อนุญาตให้ผมกับพี่เสินเข้าไป แถมยังบอกทางไปห้องน้ำให้ด้วย ที่หน้าห้องน้ำมีสนามเด็กเล่น มีหลอดไฟเปิดอยู่หนึ่งหลอด และไฟที่หน้าห้องน้ำก็เปิดอยู่ ผมบอกให้พี่เสินนั่งรอที่ม้าหินอ่อนตรงสนามเด็กเล่น ส่วนผมเข้าไปสำรวจดูในห้องน้ำ มันก็ไม่มีห้องอาบน้ำ ในห้องน้ำมีเพียงโอ่งใบเล็ก ๆ ไว้รองน้ำเพื่อให้ชำระเท่านั้นเอง แต่ที่หน้าห้องน้ำ มีอ่างล้างหน้าอยู่สองใบ ผมลองใช้ฝาปิดที่ก้นอ่างล้างหน้า และก็ลองเปิดน้ำดู มันก็รองน้ำได้ แต่ก็มีปริมาณไม่มากนัก แต่ผมคิดว่า นี่แหละคือช่องทางที่เปิดโอกาสให้ผมได้...พี่เสิน ไม่กล้าพูดเขิลลลล..อะครับ
“ว้า!...แย่จัง ไม่มีห้องอาบน้ำเลยพี่ แต่ไม่เป็นไร ที่หน้าห้องน้ำมีอ่างล้างหน้าอยู่ ผมเปิดน้ำรองให้แล้ว แต่มันคงต้องรอนานหน่อยคิดว่ามันคงต้องขาดช่วงไปบ้าง” ผมนั่งลงข้าง ๆ พี่เสิน ได้กลิ่นบุหรี่และกลิ่นเหงื่อของพี่แกลอยมาเตะจมูกเป็นพัก ๆ เอาหละสิ ต่อมเซ็กส์ของผมเริ่มทำงานอีกแล้ว ผมเลยชวนแกคุยที่ส่อไปในทางลามก เพื่อเรียกน้ำเงี่ยนให้ตัวเอง พี่เสินแม้จะดูเป็นคนบ้านนอก แต่ก็เป็นคนเปิดเผย และขี้เกรงใจพอสมควร จุดนี้แหละที่ผมคิดว่า มันคือจุดอ่อนของพี่แก ที่จะทำให้ผมเผด็จสวาทแกได้ในคืนนี้
“พี่เสินมีลูกกี่คนครับ”
“ห้าคนแล้ว”
“โอ้โห ทำไมเยอะจัง” อันนี้ผมไม่ได้เสแสร้ง แต่ผมตกใจจริง “ฮั่นแน่ แสดงว่าพี่เย็ดกันทุกวันเลยใช่มั๊ย” พี่แกทำหน้างง พร้อมกับถามผมว่า
“เย็ดกันทุกวัน แปลว่าอีหยัง” ผมขยับเข้าไปชิดกับแกจนต้นขาของผมเบียดอยู่กับต้นขาของแก ผมเห็นแกไม่มีปฏิกริยาอะไร จึงถือโอกาลูบต้นขาของแกเล่น ขาแข็งจัง แล้วควยจะแข็งมั๊ยเนี๊ยะ
“คือผมหมายถึง เอากันหนะครับ พี่กับเมียคงเอากันทุกวัน” แกยังทำหน้างงอยู่อีก ผมก็จนปัญญา
“ก็เอากันเทื่อเดียว พอฮักกันก็เอากัน แต่งงานกันแม่นบ่ ที่ประเทศลาว แต่งงานกันคือเอากัน”
“ไม่ใช่พี่ คือ...ผมจะพูดยังไง ตอนที่พี่กับเมียพี่เอากันแล้ว ทำยังไงถึงมีลูก” พี่เสินมองหน้าผม ยิ้มอาย ๆ ก่อนที่จะอ้อมแอ้มตอบเบา ๆ
“ก้อ...คือ..สี้กัน” อันนี้ผมเข้าใจแล้ว เพราะคนขอนแก่นบางท้องที่ เขาก็พูด “เย็ดกัน” เป็น “สี้กัน” เหมือนพี่เสินนี่แหละ แต่ผมก็ยังแกล้งไม่เข้าใจ อยากได้ยินคำพูดที่ไร้เดียงสา แบบเอ็กซ์ ๆ จากแก
“ผมนึกไม่ออกครับ ทำยังไงครับ “สี้กัน” หนะ” เจอคำถามแบบพงศ์ดนัยเข้า พี่เสินยิ่งอายหนักเข้าไปอีก หน้างี้แดงเชียว ผมจ้องหน้าแกด้วยความลืมตัว พลางคิดเลยไปว่า หน้าตาบ้าน ๆ แต่ดูดีอย่างนี้ เวลาน้ำออก แล้วทำหน้าเสียวจะน่าดูขนาดไหนน้อ
“ก้อ..เวลาผู้หญิงกับผู้ชายนอนนำกัน แล้ว เออ..ผู้ชายก็เอา “คย “เข้าหี แล้วเด้าจนน้ำออก”
“อ๋อ..เข้าใจแล้วครับ ที่เมืองไทยเขาเรียกว่า “เย็ดกัน” ที่ประเทศลาวเรียกว่า “สี้กัน” เนาะ แล้วที่พี่บอกว่า เอาคยเข้าหี คำว่า “คย” นี่หมายถึง “ควย” แม่นบ่ครับ”
“เฮาบ่ฮู้ ว่ามันแปลว่าอีหยัง แต่มันคืออันนี้เนีย” พี่แกคงอยากให้ผมมองเห็นภาพ จึงลุกขึ้นเอามือชี้ที่เป้าตัวเอง แต่ผมยังคงแกล้งเซ่อต่อไป
“อ๋อ หำ”
“บ่ แม่น หำนั่นข้อยเคยได้ยินบักคำพันเล่าให้ฟังว่า คนไทยเอิ้นกะโปก” เอาหละวะ โอกาสมาถึงแล้ว ผมจึงยืนขึ้น ดึงกางเกงลงจนถึงเข่า ปล่อยควยใหญ่ห้อยหัวโตงเตง
“อันนี้ใช่มั๊ยพี่ ที่คนลาวเรียกว่า “คย” หนะ” ผมจับท่อนควยของผมขึ้นให้แกดู ผมเห็นพี่เสินพยักหน้า แต่อ้าปากค้าง ไม่ทราบว่าแกตกตลึงในความใหญ่โต ของควยผม หรือว่าแกนึกไม่ถึงว่าผมจะทำแบบนี้ ส่วนผมรู้สึกเสียวหัวควยวาบ ๆ ผมปล่อยให้แกจ้องอยู่อย่างนั้นครู่ใหญ่ ๆ จึงเก็บควยเข้าที่
“ทีนี้เราก็รู้แล้วว่า คำว่า “เย็ด” ของคนไทย คนลาวเรียกว่า “สี้” สรุปแล้วพี่ยังไม่ได้ตอบคำถามผมเลยว่า เหตุที่พี่มีลูกมาก พี่กับเมียสี้กันทุกวันเหรอครับ
“ก้อ..บ่ทุกวันดอก แต่ก็ไม่เคยเว้นเกินสองวัน บางทีเงี่ยนมาก ๆ ก็สี้กันทุกวัน”
“น่าสงสารพี่จังเนาะ เมียพี่ผ่าใส้ติ่ง พี่คงไม่ได้สี้หลายวันแล้ว ควยแข็งบ่อยมั๊ยครับ”
“แข็งดุ (บ่อย) จัง บางเทื่ออาบน้ำอยู่ ตอนถูสบู่พอคยถูกมือก็ตอดหัว (ผงกหัว) หงึก ๆ แล้ว” พี่เสินตอบแบบยิ้ม ๆ และผมคิดว่าตอนนี้ความอายของแกคงน้อยลงกว่าเดิมแล้ว เพราะผมสังเกตหน้าของแก ไม่แดงเหมือนเดิม
“ควยแข็งทำไมไม่ชักว่าวหละพี่”
“บ่ กล้า ย่านคนเห็น เพราะตอนที่เฮาอาบน้ำอยู่ มีคนถ้า (รอ) อยู่หน้าห้องน้ำตั้งหลายคน และพวกเขาก็คอยถามว่า เสร็จแล้วบ่ คืออาบโดน (นาน) แท้ ข้อยฮ้อนหลายแล้วเด้อ เป็นจั่งสี้อยู่คุยาม (ตลอดเวลา)”
“ไป..พี่ อาบน้ำดีกว่า น้ำล้นอ่างแล้ว ผมอาบด้วย รู้สึกร้อนเหมือนกัน” ผมถอดเสื้อผ้าออกเหลือแต่ตัวล่อนจ้อน เมื่อหันไปมองพี่เสิน เห็นแกมองมาทำหน้าแบบหมาสงสัย
“ป๋าคยอาบโลดติ (ก้าผ้าอาบเลยหรือ)”
“งั้นสิพี่ ผู้ชายด้วยกันไม่เห็นต้องอายเลย” ผมทำเป็นไม่สนใจแก (ทั้ง ๆ ที่ใจเต้นไม่เป็นส่ำ) เดินไปที่อ่างล้างหน้า หยิบขันในห้องน้ำมาตักราดตัว แต่พอราดไปได้แค่ห้าขัน น้ำก็หมดอ่างซะแล้ว ผมรอพี่เสินด้วยใจเต้นตุบ ๆ ยังนึกไม่ออกว่าแกจะแก้ผ้าอาบเหมือนผมหรือเปล่า ระหว่างนี้ผมมองหาสบู่ และผมก็เจอสบู่ก้อนเล็ก ๆ วางอยู่บนขอบอ่างอีกอันหนึ่ง ผมหยิบมันมาฟอกตัว และผมก็ได้ยินเสียงพี่เสินเดินมาถึงข้างหลังผมแล้ว ผมหันไปมอง และผมก็ตัวเย็นวาบ พี่เสินเดินมาด้วยตัวเปล่าเปลือยท่าทางอาย ๆ มือขวาของแกเกาะกุมที่ท่อนควยและพวงกะโปกไว้ จะเป็นเพราะ ควยแกใหญ่เกินไปหรือเปล่า ผมรู้สึกมือแกปิดควยไม่มิด ขนาดแกทำมือห่าง ๆ เพื่อให้มันปกคลุมบริเวณนั้นให้มากที่สุด ผมยังเห็นพวงไข่ของแกแลบล้นมือออกมาทั้งสองข้าง พี่เสินเป็นคนตัวไม่สูงมาก แต่ดูล่ำ ๆ เนื้อตัวคงแน่นเหมือนกับผู้ใช้แรงงานทั่ว ๆ หน้าท้องของแกก็แบนราบ มองเห็นกล้ามท้องขึ้นเป็นลอน หน้าตาของแกแม้จะดูบ้าน ๆ แต่ก็มีเสน่ห์อยู่ในที
“ปิดควยไว้ทำไมหละพี่ อายเหรอ ผมยังไม่อายเลย ไหนดูสิควยพี่คงใหญ่น่าดู” ผมเอื้อมมือลงไปดึงมือแกออก แกก็ไม่ได้ขัดขืน ตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวของแกก็ไม่มีอะไรปิดบัง ผมเลือบตาลงไปมองที่ท่อนควยของแก พอมันได้รับอิสระ มันก็ห้อยหัวโตงเตง มันใหญ่มากเลย ลำควยสีค้ำหัวถอกบานเหมือนหมวก ส.ห. กะโปกพวงใหญ่ ดูเร้าใจน่าดูดมาก ขนหมอยอันหยิกหยอย ปกคลุมทั่วบริเวณนั้น
“ควยพี่ใหญ่จัง สี้กันครั้งแรกเข้าหีเมียได้หรือเปล่า คงเข้ายากน่าดู”
“คืนแรกสี้บ่เข้า เพราะเมียเฮายังบ่เคยโดนคย เอาเข้าได้แต่หัวคย เขาบอกเจ็บหลายเฮาก็เลยเด้า ทั้ง ๆ ที่คยเข้าหีแค่คอหยัก น้ำเลยแตกออกมา คืนที่สองค่อยเข้าได้ แต่เลือดหีออกเลย” ผมฟังแกเล่าไปเรื่อย พลางตักน้ำราดตัวให้แก
“เอา นี่สบู่พี่ มันเหลือนิดเดียว” ตอนนี้ผมว่าพี่เสินคงไม่อายผมแล้ว ผมจึงหาคำพูดเพื่อมากระตุ้นอารมณ์ของแกไปเรื่อย ๆ “สี้กันอยู่อีกจักเทื่อหละพี่มันถึงเข้าได้”
“มื้อที่สาม คยจังเข้าหีได้”
“พอเขาได้แล้ว เมียพี่มักบ่”
“มักหลาย ชวนสี้กันเทื่อใด๋บ่เคยขัดจักเทื่อ”
“ตอนนี้เป็นไงครับ พี่คงกำลังอยากสี้เมียพี่เนาะ ถ้าได้ผู้สาวหีใหญ่ ๆ มาให้พี่สี้ตอนนี้คือสิดี” ผมใช้คำพูดยั่วยุพี่เสินไปด้วย พลางใช้มือลูบไล้ฟองสบู่ไปตามเนื้อตัวของแก ซึ่งแกก็ไม่ได้ขัดขืน ผมยิ่งได้ใจเลยเอามือลูบไล้หัวนมแกทั้งสองข้าง เท่ากับว่าตอนนี้ผมโอบกอดแกอยู่ทางด้านหลัง
“ยา...อย่า จับนมเฮา จักเดียม อูย..อย่าเฮ็ด..เฮาเสียว” ผมไม่หยุดหรอก แถมทั้งบีบทั้งขยำที่นมของแก พร้อมกับเบียดตัวเข้าไป จนแนบชิดกับตัวแก และมันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่ท่อนควยของผมจะทิ่มตำอยู่ที่ก้นของแก และตอนนี้ควยของผมก็กำลังแข็งเต็มที่ เนื้อตัวของพี่เสินดูหยาบกระด้าง แต่เต็มแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ เร้าใจมากเลย และผมคิดว่าตอนนี้เอาช้างมาฉุดผมก็ไม่อยู่แล้ว มือผมยังคงลูบไล้ไปตามลำตัวของพี่เสิน พร้อมกับกดควยแนบแน่นกับแก้มก้นอันแข็งแกร่งของแก ผมสังเกตว่าพี่เสินเกร็งตัวแน่น มือที่กำลังฟอกสบู่ ก็หยุดกุมอยู่ที่ควยของแก ผมจึงก้มลงไปมอง เห็นแกพยายามกดมือแน่น
“พี่เสินเป็นอะไรครับ เห็นกดมือไว้ที่ควยแน่นเลย”
“อูย..เฮาเสียว คยเฮาแข็ง”
“แล้วกดมันไว้ทำไมหละพี่ มันแข็งก็ปล่อยมันสิ”
“เฮา อยากอาย ตอนแรกเฮาคึดว่าผู้ชายกับผู้หญิงเท่านั้นที่กอดกัน แล้วเฮ็ดให้คยแข็ง แต่นี่ ผู้ชายกอดกัน ก็เสียวได้ เฮาอยากสี้จัง”
“ทำยังไงได้หละพี่ ที่นี่ไม่มีผู้หญิง ไม่มีหีให้พี่สี้ หรือพี่จะสี้ผม”
“โต (เอง) มีหีเบาะ(หรือไง)”
“สี้ดาก(เย็ดตูด)ก็ได้”
“อูย..บ่เอา มันผิดผี ขี้เดียด(ขยะแขยง) ฟ้าสิฝ่า” พี่เสินสะบัดตัวออกจากอ้อมกอดผมอย่างแรง ผมเองก็ตกใจไม่น้อยเหมือนกัน ไม่นึกเลยว่าแกจะมีปฏิกิริยาต่อต้านที่รุนแรงขนาดนี้ ผมคิดว่าสำหรับพี่เสินแล้ว ผมคงเข้าถึงตัวแกได้แค่นี้
“ผมขอโทษพี่ ผมไม่ได้มีเจตนาจะล่วงเกินพี่ ผมเพียงแต่หลูโตนพี่(สงสารพี่) อยากให้พี่มีแฮง(มีความสุข) เท่านั้นเอง ถ้าพี่ทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร พี่มาอาบน้ำต่อให้เสร็จเถอะ แล้วจะได้ไปหาเมียพี่” ผมรู้สึกเสียใจที่ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจตัวเอง อันที่จริงผมไม่ต้องมีเซ็กส์กับทุกคนที่มีโอกาสก็ได้ กรณีพี่เสินยิ่งไม่น่าใจร้อน เพราะยังไงซะ คำพันลูกชายแกก็ยังอยู่อีกคน พี่เสินอาจจะบอกลูกของแกไม่ให้มาอาบน้ำกับผมก็ได้ เพราะแกกลัวผมจะทำอะไรกับลูกของแก แต่ผิดคาด เพราะพี่เสินเดินมาหาผม เอื้อมมือมาตบไหล่ผมเบา ๆ
“เฮาก็บ่ได้ คึดอีหยัง และบ่ได้ถือโทษโกรธโตดอก เพียงแต่เฮาบ่อเคยได้ยิน และบ่คึดว่าผู้ชายสิสี้กันได้ มาอาบน้ำกันต่อให้แล้วเถอะ” แกยิ้มให้ผมอย่างอบอุ่น
“ครับพี่” เราตักน้ำราดตัว ผมเห็นพี่เสินลูบไล้ฝ่ามือไปตามเนื้อตัวอันเปล่าเปลือย เพื่อล้างฟองสบู่ออกจากตัว ผมชำเลืองมองด้วยหัวใจวาบหวิว และเมื่อฝ่ามืออันหยาบกร้านของแก ลูบไปที่ลำควยของแก ควยของแกก็ผงาดขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ผมได้เห็นเต็มตา ควยท่อนใหญ่ดำมะเมี่ยม โงนเงนไปมายามที่มันโดนมือของเจ้าของลูบไล้ หัวถอกที่บานใหญ่ ดูเป็นสีม่วงคล้ำ คงมีเลือดมาคลั่งเยอะ ตามลำควยท่อนใหญ่ปูดโปนไปด้วยเส้นเอ็น กะโปกพวงใหญ่ที่ดูห้อยลงจน ตอนนี้หดขึ้นมาดูเป็นกะเปาะ สงสัยหนาวเพราะโดนน้ำ แต่ก็ยังดูเป็นถุงใหญ่ กลุ่มหมอยอันดกดำ เมื่อโดนน้ำดูลู่ลงเป็นเส้นยาว
“พี่ยังอยากสี้อยู่เหรอครับ ควยแข็งอีกแล้ว”
“มันคงบ่เซา(ไม่หาย) อยากดอก คืนนี้ถ้าน้ำบ่ออก สงสัยต้องแข็งทั้งคืน อยากอายหมอเด้(คิดแล้วอายหมอจัง)”
“กลัวมันแข็งใส่หน้าหมอ ก็เอาน้ำออกก่อนสิพี่”
“เฮ็ดจั่งใด๋หละ”
“ชักว่าวไงพี่”
“ชักคนเดียว อายโต”
“ผมก็จะชักด้วยพี่ มาเรามาชักว่าวกัน” ผมไม่รอช้า รีบกำควยขึ้นมาสาวว่าว ควยผมก็แข็งรออยู่แล้ว และพี่เสินก็เริ่มชักควยตัวเองเหมือนกัน เราหันหน้าเข้าหากัน ผมสาวควยตัวเองไป ตาก็จ้องมองพี่เสินเป็นตัวกระตุ้น ควยใหญ่ของพี่เสิน ถูกแกกำขึ้นมา ด้วยความใหญ่ ยาวของมัน แกกำไม่รอบ ส่วนลำควยก็เหลือโผล่ออกมาให้เห็นอีกตั้งครึ่งหนึ่ง แกกำมือแน่น กระชากชักควยค่อนข้างแรง พลางแหงนหน้า ซี๊ดปาก มือของแกกำควยชักจนชนกับหมอย ส่วนตูดแกก็กระเด้าสวนขึ้นมา
“เสียวมากมั๊ยพี่”
“อูย เสียวจัง เฮาบ่อได้เอาน้ำออกตั้งเกือบเดือนแล้ว เพิ่งมีมื้อนี้แหละที่ได้ชักว่าว มีแฮง(เสียว) จัง บ่อยากให้น้ำออกเลย อยากเสียวจั่งสี้โดน ๆ (นาน ๆ)”
“ผมก็เสียวมากเหมือนกันพี่” อันนี้ผมพูดจริง ไม่ได้เสแสร้ง เพราะท่าทางการชักว่าวของพี่เสิน เร้าอารมณ์เหลือเกิน
“โอ๊ย ..พี่ ผมไม่ไหวแล้วครับ น้ำจะออกแล้วครับ ออ..น้ำผมออกแล้วพี่ อูย..เสียวสุด ๆ เลย”
“เสร็จแล้ว ตี่(หรือ) น้ำหลายคือกันเนาะ เฮายังบ่ออยากออก อยากมีเสียวโดน ๆ ก่อน”
“ให้ผมชักให้นะพี่ รับรองพี่จะเสียวมากกว่าเดิมอีก”
“เอาจั่งสั้นติ” ผมไม่รอให้แกอนุญาต เข้าไปคุกเข่าตรงหน้าแก เอื้อมมือไปกำควยใหญ่ของแก ซึ่งแกก็ไม่ได้ขัดขืน ผมรู้สึกว่าควยแกแข็งมากเลย มือขวาของผมกำควยใหญ่ชักเข้าชักออก ในขณะที่มือซ้ายของผมก็ลูบไล้อยู่ที่กะโปกพวงใหญ่ของแก ตอนนี้ควยท่อนใหญ่ผุบเข้าผุบออกจากมือของผม ห่างจากปากของผมไม่ถึงคืบ กลิ่นคาวจากปลายถอกของแกลอยมาเข้าจมูกหอมหวนรัญจวนใจยิ่งนัก ผมอยากอ้าปากดูดควยแกเหลือเกิน แต่ก็ไม่กล้า กลัวแกโวยวายขึ้นอีก เดี๋ยวสวรรค์จะล่มซะเปล่า สำหรับพี่เสินได้แค่นี้ก็เกินพอแล้วหละ
“โตซักว่าวให้ มีแฮงอีหลี ยิ่งลูบหำ (กะโปก) นำ(ด้วย) แห่งมีแฮงหลาย (ยิ่งเสียวกว่าเดิม) อูย! เสียว กำแน่น ซักแฮง น้ำเฮาสิออกแล้ว โอ๊! ..ออกแล้ว ออกแล้ว น้ำเฮาออกแล้ว” สองมือของพี่เสินกุมที่มือผมและกำอย่างแน่น พร้อมกับกระชากชักเองอย่างแรง เหมือนกับว่าที่ผมชักให้แกนั้น มันไม่สะใจแก พอน้ำควยแกพุ่งออกมา แกยิ่งกำมือแน่น ซี๊ดปากดังลั่น ขบกรามจนขึ้นเป็นสัน พร้อมกับแอ่นตัวมาข้างหน้า จนปลายถอกของแกชนกับปากผมอย่างจัง ผมไม่รอรีอะไรอีกแล้ว เป็นไงเป็นกัน ผมอ้าปากอย่างกว้าง อมควยท่อนใหญ่ข้าไว้ และก็รู้สึกถึงน้ำอุ่น ๆ คาว ๆ พุ่งเข้ามาอย่างมากมาย ผมทั้งดูดทั้งเลีย และโดยที่ไม่ได้คาดคิด ผมรู้สึกว่า สองมือของพี่เสิน ปล่อยจากการกระชากชักควย มากุมอยู่ที่หัวของผม พร้อมกับกดเข้าใส่ ส่วนตูดของแกก็กระเด้าปากผมผับ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มันทั้งเร็วและแรง
กะโปกพวงใหญ่ของแกตีคางผมเสียงดัง ปับๆๆๆๆๆๆๆๆ ปลายถอกอันใหญ่นั้นก็กระทุ้งลำคอผมอย่างแรง ถ้ามันเป็นมีดปลายแหลม ป่านนี้มันคงทะลุออกทางท้ายทองของผมแล้ว ฝ่ามืออันหยาบหนาของพี่เสิน กดหัวผมอยู่อย่างนั้น ส่วนตูดก็กระแทกควยท่อนใหญ่เข้าปากผมไม่ยอมหยุด ส่วนผมก็ดูดกลืนกินน้ำควยของแกด้วยความเอร็ดอร่อย จนหยดสุดท้าย แกถึงคลายมือออก และหยุดกระเด้า
“โอย...มีแฮงคย(เสียวควย) จัง หีแหม่มึงดูดคยผ่อดีแท้ แต่ก่อนคือบ่ดูดดีจั่งสี้” แกดึงสะโพกถอดควยออกจากปากผม ควยท่อนใหญ่หลุดผลั๊วออกมา เยิ้มไปด้วยน้ำควยปนน้ำลาย กลิ่นคาวคุ้ง ผมแหงนหน้าสบตาแกยิ้มแบบหยาดเยิ้ม แต่พี่เสินทำสีหน้าตกอกตกใจ
“ฮ่วย! เฮาสี้ปากโตติ (อ้าว ตายจริงผมเย็ดปากคุณเหรอครับ) โอ้ย! ขอสุมาเด้อ อย่าเคียดให้เฮาเด้อ เฮาลืมโตไป คึดว่าสี้อยู่กับเมีย (ขอโทษนะครับ อย่าโกรธผมนะ ผมลืมตัวไปหน่อย นึกว่าเย็ดอยู่กับเมีย” ผมเห็นพี่เสินทำคอตก ตาละห้อย เหมือนคนสำนึกผิดแล้ว ผมแทบกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ อันที่จริงผมต่างหาก ที่น่าจะเป็นฝ่ายขอโทษแก เสียรู้ให้พงศ์ดนัยซะแล้ว พี่เสินควยใหญ่ ทีนี้ยังเหลือน้องคำพันลูกชายสุดหล่อของพี่ คิดหรือว่าจะรอดพ้นมือ ของพงศ์ดนัยไปได้
555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555
เราอาบน้ำเสร็จก็เดินออกจากโรงเรียนมาทางเก่า พี่ยามทักทายอย่างคนมีน้ำใจ
“เสร็จแล้วหรือครับ”
“เสร็จแล้วครับ เสร็จทั้งสองคนเลย” พี่ยามทำหน้างงกับคำตอบของผม ผมเพิ่งได้สังเกตพี่ยามชัด ๆ ก็ตอนนี้นี่เอง พี่ยามเป็นคนผิวคล้ำ ตัวสูง ๆ ล่ำ ๆ ตัดผมรองทรงเหมือนทหารหรือตำรวจทำนองนั้น แกไม่ได้แต่งชุดยามเต็มยศ วันนี้แกนุ่งกางเกงขายาวสีกรมท่า เสื้อยืดแขนสั้นสีขาว มองตรงแผงหน้าอก ดูกำยำดีแท้ ท่อนแขนของแกค่อนข้างใหญ่ เส้นเอ็นขึ้นเต็ม เหมือนกับในชีวิตของแก ต้องทำงานยกของมาทั้งชีวิต ผมเริ่มสนใจพี่ยาม และก็คิดว่าคงไม่ยากเกินไปสำหรับผม แต่วันนี้น้องคำพันยังรอผมอยู่ ผมจึงบอกให้พี่เสินไปเปลี่ยนคำพันให้มาอาบน้ำ ส่วนผมจะคอยอยู่ที่นี่ พี่เสินเดินจากไปแล้ว ผมก็เริ่มสนทนากับพี่ยาม
“ต้องขอรบกวนพี่อีกครั้งนะครับ คือยังเหลือน้องอีกคนหนึ่งที่ยังไม่ได้อาบน้ำ”
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องเกรงใจหรอก เราคนไทยด้วยกัน แบ่งปันกันได้อยู่แล้ว” ผมคุยกับพี่ยามถึงเรื่องทั่วไป และก็ได้ทราบว่าแกชื่อ อาวุธ มาเป็นยามอยู่ที่นี่ได้ห้าปีแล้ว แต่ก่อนแกเคยเป็นทหารพราน แต่ตอนนี้ลาออกแล้ว ผมกำลังคุยกับพี่อาวุธอย่างออกรส น้องคำพันก็มาถึงพอดี
“ผมพาน้องไปอาบน้ำก่อนนะพี่ เดียววันหลังผมจะแวะมาคุยด้วยอีก”
“ครับ ดีเลย อยู่ยามคนเดียวบางทีก็เหงาเหมือนกัน” ผมกับคำพันเดินมาถึงสนามเด็กเล่นหน้าห้องน้ำแล้ว
“ในห้องน้ำมันไม่มีอ่างอาบน้ำนะ คำพัน”
“อ้าว! แล้วพ่อผมอาบยังไงหละ” คำพันทำหน้าผิดหวัง
“ตรงหน้าห้องน้ำจะมีอ่างล้างหน้าอยู่ พี่ก็เลยรองน้ำตรงนั้นให้พ่อเราอาบ แต่มันได้ทีละนิด คนตัวใหญ่อย่างคำพันคงไม่พออาบ พี่ว่าเราเดินไปสำรวจดูข้างห้องน้ำดีมั๊ย เผื่อมีก๊อกน้ำอยู่บ้าง จะได้เปิดอาบเลย พอดีเมื่อกี้ตอนพาพ่อมาอาบพี่ก็ลืมนึกไป”
“ดีครับพี่” เราเดินไปดูที่ข้างห้องน้ำ และมันก็มีก๊อกน้ำจริง ๆ ด้วย
“นั่นไง คำพัน ก๊อกน้ำ ไปเปิดดูซิ น้ำไหลหรือเปล่า” คำพันเดินไปเปิดน้ำดู ปรากฏว่ามีน้ำไหลออกมาค่อนข้างแรง
“ใช้ได้พี่”
“งั้นอาบเลย พี่อาบด้วยรู้สึกร้อนเหมือนกัน” แผนการอันชั่วร้าย คำพันถอดเสื้อยืดออก เผยให้รูปร่างอันสูงสง่า เนื่องจากน้องเขาเป็นคนตัวใหญ่และก็ค่อนข้างสูงด้วย รูปร่างเขาจึงดูดีมาก ผิวค่อนไปทางขาว ตรงหน้าอกมีกล้ามเนื้อขึ้นพองาม ตรงหน้าท้องมีไรขนขึ้นอ่อน ๆ พอให้ดูเซ็กส์ซี่
“อาบยังไงหละพี่ ไม่มีผ้าขาวม้านุ่งอาบ”
“ไม่เห็นยากเลย ก็แกผ้าอาบสิ เราผู้ชายด้วยกันไม่เห็นต้องอายกันเลย”ผมถอดเสื้อบ้าง มองไปทางคำพัน เห็นถอดกางเกงขายาวออก เหลือแต่กางเกงในตัวเดียว ผมเดินเฉียดเข้าไปใกล้ ๆ เนื่องจากกางเกงในของน้องเขาเนื้อผ้าค่อนข้างบาง จึงมองเห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ข้างในได้ค่อนข้างชัดเจน โอ้ โห! ควยขึ้นเป็นลำเลย คงใหญ่น่าดู กะโปกก็คงต้องใหญ่ด้วย เพราะมันตุงดันท่อนควยขึ้นมาเห็นเป็นรูปเป็นร่างเลย คำพันเดินไปที่ก๊อกน้ำ
“อ้าว! คำพัน ไม่ถอดกางเกงในก่อนเหรอ ถ้ามันเปียกจะเอาไปตากที่ไหนหละ”
“ผมก็คิดอยู่เหมือนกันพี่ แต่มันกระดากยังไงไม่รู้ ที่ต้องมาแก้ผ้าอยู่ต่อหน้าคนที่เพิ่งรู้จกกัน”
“ไม่เป็นไรหรอก เอ้า พี่แก้เป็นตัวอย่างก่อนก็ได้” ผมถอดกางเกงออก เหลือแต่ตัวล่อนจ้อน คำพันหันมามอง แล้วก็อมยิ้ม พลางถอดกางเกงในออก ผมจ้องมองด้วยใจสั่น ๆ สิ่งที่ผมรอคอยมันกำลังจะเกิดขึ้นข้างหน้าผมในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้ และแล้วเกงเกงในของน้องคำพันก็ถูกดึงออกทางปลายเท้า ผมรีบจ้องไปตรงกางลำตัวทันที ว่าแล้วมั๊ยหละ ขนาดควยพ่อยังใหญ่ขนาดนั้น แล้วลูกมันก็ใหญ่อย่างที่ผมคาดการณ์ไว้จริง
น้องคำพันควยใหญ่กว่าพี่เสินอีก ลำควยขนาดใหญ่แกว่งไปมา ในขณะที่เจ้าตัวก้าวขาเดิน มันแกว่งไปโดนขาข้างซ้าย ขาข้างขวา สลับกันไปมา ปลายควยยังไม่ถอก แต่ดูเหมือนอมของขนาดใหญ่ไว้ น้องคำพันมีหมอยเยอะมาก เยอะจนดูดำไปทั่วทั้งบริเวณนั้น และยังลาม ไปถึงกะโปก และโคนขา จนไปเชื่อมต่อกับขนขาที่ดูดกดำ ผมเปิดน้ำแล้วเข้าไปนั่งอยู่ใต้ก๊อกน้ำ ปล่อยให้น้ำไหลราดตั้งแต่หัวลงมา คำพันเข้ามานั่งจนลำตัวติดกับตัวผม เราผลัดกันเอียงตัวเข้าหาก๊อกน้ำ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ตัวของผมกับตัวของ
คำพันจะเสียดสีกัน ซึ่งมันทำให้ผมซ่านเสียวจนขนลุก ผมมองดูสายน้ำที่ไหลราดตัวน้องคำพัน เมื่อมันต้องกับแสงไป ดูเป็นประกายวาววับ เรียกน้ำเงี่ยนได้ดีแท้
“เย็นสบายดีจังนะพี่ แต่เสียอย่างเดียวไม่มีสบู่ ผมก็ลืมนึกถึงข้อนี้ไป”
“พี่ก็ลืมคิดเหมือนกัน แต่ตรงอ่างล้างหน้า หน้าห้องน้ำจะมีสบู่ก้อนเล็ก ๆ อยู่พอแก้ขัดได้ เมื่อกี้พ่อของคำพันก็ใช้ก้อนนั้นแหละ คำพันไปหยิบมาสิ” คำพันลุกเดินไป ผมมองตามด้านหลัง ด้วยตัวที่สูงโปร่งและตัวใหญ่ แผ่นหลังจึงดูหนา เอวคอดนิดหนึ่ง ตรงสะโพก ดูงอนงาม เต็มแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อของวัยหนุ่ม แก้มก้นทั้งสองข้างมีรอยบุ๋มเข้าไป ยามที่เขาเยื้องย่าง มันดูเกร็งแน่น ตูดแบบนี้ ยามเกร็งกระเด้าจะน่าดูขนาดใหนน้อ ผมคิดอะไรไปเรื่อยเปลื่อย จนน้องเขาเดินกลับมา เมื้อกี้ผมกำลังสยิวกับแก้มก้นของน้องเขา และตอนนี้น้องเขาเดินหันหน้ามาทางผม มองเห็นควยท่อนใหญ่แกว่งไปมา ดูเด่นไปสง่า
และควยของผมก็แข็งขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“คำพันเข้าไปอาบเลย มาพี่ฟอกสบู่ให้”
“ผมทำเองก็ได้พี่”
“น่า...ให้พี่ทำให้เถอะ เพราะเดี๋ยวถึงตาพี่คำพันก็ต้องถูให้พี่อยู่แล้ว เพราะถูข้างหลังคงจะบาก มือมันไม่ถึง” น้องคำพันไม่ได้ขัดขืนผมอีก และขยับเข้าไปนั่งใต้ก๊อกน้ำ ผมเข้ามานั่งข้างหลัง มือลูบฟองสบู่ไปตามแผ่นหลังอันแข็งแกร่งนั้น
“คำพันเนื้อแน่นจัง ตัวแน่น ๆ อย่างนี้ผู้หญิงชอบ อยู่กรุงเทพคงมีแฟนเยอะหละสิ”
“ไม่มีหรอกพี่ ก็ผมมีแฟนจนจะแต่งงานกันแล้ว”
“แฟนไปอยู่ด้วยเหรอ”
“เปล่าหรอกครับ”
“อ้าว ...แล้วเมื่อไหร่จะได้เจอกันหละ เห็นบอกว่าแฟนอยู่หลวงพระบาง ส่วนเราอยู่เมืองแก่นท้าว มันไกลกันอยู่ไม่ใช่เหรอ”
“ก็ไกลอยู่พี่ แต่คนลาว ไม่เหมือนคนไทย ที่คนเป็นแฟนกันต้องเห็นหน้ากันบ่อย ๆ คือผู้ใหญ่พูดกันแล้ว ถึงวันแต่งค่อยอยู่ด้วยกัน”
“พี่ถามหน่อยเถอะ จนจะแต่งงานกันแล้ว เคย...เออ..นอนด้วยกันหรือยัง พี่หมายถึง..ยังไงดีหละ” ผมกลายเป็นคนติดอ่างตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ จนน้องคำพันตอบมาซะเองเลย
“เย็ดกันใช่มั๊ยพี่”
“ก้อ..ทำนองนั้นแหละ”
“เคย..เคยเย็ดกันแล้วพี่ เขามาหาผมที่บ้าน เนื่องจากบ้านเขารวย มีรถส่วนตัวขับ เขาอายุมากกว่าผมตั้งหลายปี และเคยแต่งงานมาครั้งหนึ่งแล้ว”
“อ้าว...น่าเสียดายคำพันจังเนอะ ทั้งหนุ่ม ทั้งหล่อ ต้องมาแต่งงานกับผู้หญิงที่อายุมากกว่า แถมยังเป็นแม่ม่ายอีกต่างหาก แล้วคำพันรักเขาหรือเปล่าหละ”
“ผมไม่ได้รักครับ แต่ก็ไม่ได้รังเกียจ อีกอย่าง พ่อกับแม่ผมชอบเขา บอกว่าถ้าผมได้แต่งงานกับเขาผมจะสบายไปทั้งชาติ ไม่ต้องพลัดบ้านพลัดเมืองมาทำงานถึงเมืองไทย”
“แล้วได้กันตอนไหนหละ”
“วันนั้นเขาขับรถจากหลวงพระบางมาหาผม พ่อกับแม่ของผมชอบเขามาก จึงปล่อยให้เราอยู่กันเพียงสองคน โดยพ่อกับแม่ผมไปไร่ และชวนน้อง ๆ ไปหมด บ้านทั้งหลังจึงเหลือผมกับเขาเพียงสองคน”
“ใครเริ่มก่อนหละ” ผมชักมีอารมณ์ ตอนนี้ผมเลิกถูสบู่ให้น้องเขาแล้ว นั่งฟังอย่างเดียว
“เขาเริ่มก่อน ผมเพิ่งอาบน้ำเสร็จ นุ่งผ้าขาวม้าผืนเดียว เขาเข้ามากอดข้างหลังผม ซบหน้ากับหลังผม บอกว่าคิดถึง กอดไม่กอดเปล่า มือยังกำควยผมด้วย”
“กำแล้วเขาชมหรือเปล่า”
“ก็บอกว่า ควยผมใหญ่จัง ควยผัวเก่าเขาไม่ได้ครึ่งหนึ่งของผมเลย พร้อมกับดึงผ้าขาวม้าของผมออก ตอนนั้นผมก็เงี่ยน ควยผมก็เลยแข็ง เราก็เลยเย็ดกันอยู่ตรงนั้นแหละ”
“แล้วเขาติดใจหรือเปล่าหละ”
“ติดใจสิพี่ ตอนเธอเสร็จเธอร้องเสียงดังมาก บอกไม่เคยเสียวอย่างนี้มาก่อน และผัวเก่าเธอก็ไม่เคยเลียหีให้ด้วย”
“คำพันเลียหีให้ด้วยหรือ”
“ครับ พี่ซินดี้สอนไว้ ถ้าเย็ดกับผู้หญิงอยากให้เขาติดใจ ต้องเลียหี ดูดแตดให้เขาด้วย”
“เดี๋ยว พี่ซินดี้นี้คือใคร”
“คนที่ผมอยู่ด้วยที่กรุงเทพ พี่ซินดี้นี้แหละเป็นคนฝากงานให้ผมที่ร้านอาหาร ที่แกร้องเพลงอยู่ แกเป็น...เป็น..กระเทยครับ” ผมอึ้งเลย มิน่า ตอนที่ผมจับขาคำพันครั้งแรก ตอนที่คุยกันที่ศาลา น้องเขาจึงยิ้มให้ผม แบบเข้าใจ”
“งั้น..คำพันกับซินดี้ ก็”
“ผมสงสารแกหนะพี่ อุตส่าห์ฝากงานให้ และยังให้ผมอยู่บ้านด้วย แถมดูแลอย่างดี บางทียังให้เงินผมใช้ด้วย ตอนแรกแกดูดควยให้ผมก่อน ผมก็ว่าดีนะครับ แกดูดดีมาก ผมเสียวมากเลย ดีกว่าชักว่าวตั้งเยอะ พอตอนหลังแกสอนให้ผมเย็ดตูดแก อันนี้ยิ่งดีใหญ่เลย ตูดแกรัดควยผมดีกว่า หีแฟนซะอีก”
“เย็ดกันทุกวันมั๊ย”
“แทบทุกวันพี่ ผมชอบ บางทีแกไม่อยากแต่ผมขอเย็ดแกเอง” ฟังคำพันเล่ามาถึงตรงนี้ แสดงงว่าความฝันของผมมันอยู่แค่เอื้อม ผมจึงเริ่มลูบไล้ฟองสบู่ไปตามแผ่นหลังของคำพันอีกครั้งหนึ่ง และสอดมือเข้าไปใต้รักแร้ ไปลูบที่หัวนมทั้งสองข้าง และผมก็ได้ยินเสียงน้องคำพันซี๊ดปากเบา ๆ
“พี่ อย่าลูบหัวผมสิ มันเสียว” ผมเอียงหน้าเข้าไปกระซิบที่ข้างหูของคำพันด้วยเสียงกระเส่า
“เสียวแล้ว...ชอบหรอเปล่า”
“พี่..ผม” ก่อนที่คำพันจะพูดอะไรมากกว่านี้ ผมใช้ปากปิดลงที่ปากของน้องเขา คำพันเผยอปากขึ้นตอบรับ เราบดขยี้แลกจูบกันอยู่นาน ผมจึงผลักคำพันนอนหงายลงตรงนั้น
และเริ่มไซ้ตั้งแต่ซอกคอ เรื่อยลงมาถึงหัวนม ผมหยุดดูดเลียหัวนมของน้องเขาทั้งสองข้าง สลับกันไปมา น้องคำพันใช้มือลูบที่หัวผม พร้อมกับซี๊ดปากอย่างแรง
“อูย...ซี๊ด..เสียวจังเลยพี่” ผมลากลิ้นไปตามหน้าท้อง ขบกัดเบา ๆ ตรงไรขนที่ขึ้นอ่อน บริวเวณหน้าท้องนั้น ตอนนี้จมูกของผม ฝังอยู่ที่พงหมอยอันดกดำ ส่วนลิ้นของผมก็เลียไปตามซอกขา ดูดอมกะโปกพวงใหญ่ และแยงเข้าไปในรูตูดที่รกไปด้วยขน มือของผมกำควยใหญ่แล้วเปิดหัวถอกออก ปลายถอกของคำพันสีออกชมพูอมม่วง ผมเลียไปตามคอหยัด ก่อนที่จะอ้าปากอม และเริ่มดูดหนัก ๆ ส่วนน้องคำพันก็ใช้มือกดหัวผมไว้ พร้อมกับกระเด้าสวนขึ้นมา ผมดูดควยใหญ่อยู่พักใหญ่ จึงลุกขึ้นนั่งยอง ๆ คร่อมตรงกลางลำตัวของน้องเขา มือขวาประคองสากใหญ่ไว้ เมื่อเห็นว่ามันตรงทางแล้ว ผมจึงหย่อนก้นลงไป หัวถอกมู่ทู่นั้น แทรกผ่านรูสวรรค์ของผมเข้าไปจนถึงคอหยัก ผมรู้สึกตึงแน่นไปหมด ส่วนคำพันสะดุ้งเฮือก สองมือบีบแขนผมแน่น ผมค่อย ๆ กดสะโพกลงช้า ๆ ควยท่อนใหญ่ครูดรูตูดผมเข้าไปทีละ ๆ จนมิดด้าม คำพันดูเหมือนจะรู้งาน อาจจะเป็นเพราะซินดี้สอนมาดีก็ได้ เพราะตอนนี้เขากระดกควยหงึก ๆ ควยท่อนใหญ่จนดิ้นอยู่ในรูตูดของผม ผมรู้สึกเสียวาบ ๆ เหมือนน้ำจะออก สองมือของผมค้ำยันอยู่ที่อกแกร่งของคำพัน และก็เริ่มโยกเข้าโยกออก น้องคำพันทำหน้าหล่อ หลับตาซี๊ดปาก ผมรู้สึกหมั่นเขี้ยวจึงก้มหน้าลงไปบดขยี้ปากกับน้องคำพันอีกครั้งหนึ่ง เมื่อผมถอนปากออก ผมจึงเอี้ยวตัวหันหน้ามาทางเท้าของคำพัน เพราะผมอยากดูว่า ยามนี้กะโปกพวงใหญ่จะอยู่ในสภาพอย่างไร และผมก็ได้เห็นว่ายามผมกระแทกตูดลงไป ไข่ใบเขื่องทั้งสองใบ เลื่อนขึ้นเลื่อนลง อย่างน่ารัก ผมจึงอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปลูบเล่น
“พี่ผมเสียวมากเลย เปลี่ยนท่าดีกว่านะครับ” คำพันบอกให้ผมคลานลง ส่วนตัวเขาขึ้นคร่อม โดยที่ควยยังคาตูดอยู่ เมื่อเข้าที่เข้าทางดีแล้ว เขาจึงเริ่มกระแทกควยเข้ามา ทั้งแรงและเร็ว กะโปกของน้องเขา ตีกับกะโปกผมดังปับ ๆๆ ขนหมอยอันหยาบแข็งของเขาแยงเข้าไปที่รูตูดของผม เพิ่มความเสียวได้อย่างดีทีเดียว เขาคร่อมตัวกระเด้าผมอยู่สักพัก จึงเปลี่ยนเป็นท่าลิงอุ้มแตง ท่านี้ผมชอบมาก เพราะรู้สึกว่าเวลาควยกระแทกเข้ามามันเข้าลึกดี
“พี่ผมจะอุ้มพี่เดินเย็ดไปตามสนามเด็กเล่นนะครับ”
“ตามใจคำพันเถอะ พี่เสียวมากเลย ทำยังไงก็ได้” ผมกอดคอน้องเขา ขาทั้งสองข้างก็โอบไปรอบเอว ส่วนมืออันแข็งแรงของน้องเขาจับอยู่ที่เอวของผม พร้อมกับกระแทกลงรับกับการกระเด้าควยสวนขึ้นมา ผมรู้สึกว่าควยเข้าลึกมาก เหมือนกับว่ามันมาจุกอยู่ที่อกของผม น้องเข้าอุ้มผมเดินกระเด้าไปตามสนามหญ้า ผมรู้สึกสะใจและเสียวมาก
“พี่สงสัยผมจะไม่ไหวแล้ว ครับ ดูเหมือนน้ำจะออกแล้ว ตูดพี่ขมิบรัดควยผมดีมากเลย พี่ให้ผมเย็ดทุกวันนะครับ” ผมยิ้มรับ โน้มคอน้องเข้ามาจูบอย่างดูดดื่มอีกครั้งหนึ่ง น้องคำพันวางผมลงตรงมาหินอ่อนที่สนามเด็กเล่น และยืนโซ้ยอย่างเอาเป็นเอาตาย
“คำพัน แรง ๆ ครับ พี่...พี่ไม่ไหวแล้ว น้ำจะออกแล้ว ออกแล้วครับ น้ำควยพี่ออกแล้ว” และน้ำควยของผมก็พุ่งออกมาอย่างแรง จนกระเด็นขึ้นไปชนกับหน้าท้องของคำพัน
“พี่...ผมก็ ไม่ไหวเหมือนกัน จา..นา ..น้ำ..น้ำ..ผมจะออกแล้ว จะออกแล้วครับ”
“คำพัน เอาน้ำเธอมาให้พี่กิน ออกในปากพี่นะ” ผมอ้าปากรอในขณะที่น้องเข้าร้องดังลั่น
“โอ๊ย...ออกแล้วพี่ น้ำควยผมออกแล้ว” คำพันถอดควยออกจากรูตูดของผม พร้อมกับกำควยท่อนใหญ่ยัดเข้าไปในปากของผม ผมดูดดุนอย่างแรง และน้ำควยของคำพันก็พุ่งจู๊ด ๆๆๆ เข้าไปในปากผม ผมกลืนลงคอด้วยความเอร็ดอร่อย จนหยดสุดท้าย พอน้ำควยเขาออกหมด ผมจึงดูดทำความสะอาดควยน้องเข้าจนเกลี้ยง น้องคำพันจูบผมอย่างดูดดื่มอีกครั้งหนึ่ง แล้วเราก็กอดกันกลิ้งไปมาที่สนามหญ้าตรงนั้นนานเท่านาน ถึงได้ลุกไปอาบน้ำ และผมก็โดนน้องคำพันเอาควยใหญ่กระแทกตูดอีกครั้งหนึ่ง เฮ้อ มีความสุขจัง
XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX
ผมเว้นช่วง 2-3 วัน จึงลอง ๆ ไปนั่งที่ศาลาที่เดิมอีก นั่งอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ไม่มีเหยื่อเข้ามาที่ศาลานี้เลย ผมจึงนึกถึงพี่อาวุธที่เป็นยามของโรงเรียนขึ้น หน่วยก้านของพี่เขาก็ไม่เลวนัก อันที่จริงน่าจะเรียกว่าดีมากกว่า ผมจึงเดินออกจากศาลาไปที่ป้อมยามของโรงเรียน แต่คนที่นั่งอยู่ในป้อมไม่ใช่พี่อาวุธ ตอนแรกผมคิดว่าจะหันหลังกลับ แต่พี่ยามคนนั้นได้ถามขึ้น
“มีอะไรให้ช่วยครับ”
“เออ..คือผมมาหาเพื่อนหนะครับ เขาเฝ้ายามอยู่ที่นี่แหละ”
“อ๋อ...ไอ้วุธ วันนี้มันพัก คือที่นี่มียามสองคน วันนี้เป็นเวรผม”
“ขอบคุณครับ งั้นผมไม่รบกวนแล้วครับ”
“มีธุระอะไรกับมันหรือเปล่าหละ”
“คือผมเป็นเพื่อนแกหนะครับ ผ่านมาก็เลยจะมาคุยด้วยเฉย ๆ”
“เข้าไปหามันก็ได้ บ้านพักมันอยู่ข้างในโรงเรียน คุณเดินตรงไปนะ อยู่หลังสุดติดกำแพง มีบ้านพักหลังเดียวเท่านั้นแหละ ตอนนี้ยังหัวค่ำอยู่ มันคงยังไม่นอนหรอก”
“ขอบคุณครับ” ผมตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเข้าไปดีหรือเปล่า เพราะจะว่าไปแล้ว ผมก็ไม่ได้สนิทสนมกับแกอะไรมากมาย เพียงแต่ผมรู้สึกว่าแกเป็นคนอัธยาศัยดี และเป็นคนมีน้ำใจ ก็เลยคิดเลยเถิดไปหน่อยเท่านั้นเอง แต่ใจหนึ่งก็คิดว่า ไม่เห็นเป็นไรเลย เพราะวันนั้นก็เกริ่นกับแกไว้แล้ว ว่าจะแวะมาคุยด้วย หากไม่เวิร์คก็กลับเท่านั้นเอง “อันของสูงแม้นปองต้องจิต หากไม่คิดปีนป่ายจะได้หรือ” ผมจึงเดินเข้าไปจนถึงบ้านหลังดังกล่าว ลักษณะเป็นบ้านไม้หลังกะทัดรัด เป็นบ้านชั้นเดียว ใต้ถุนสูง ไฟบนบ้านยังเปิดอยู่แสดงว่าแกยังไม่หลับ ผมเดินไปจนถึงบันใดขึ้นบ้าน ตอนแรกจะถือวิสาสะ เดินขึ้นไป แต่เอ๊ะ...เราก็ไม่ได้สนิทกับแกถึงขนาดนั้น จึงตัดสินใจเรียก
“พี่วุธครับ พี่วุธ อยู่หรือเปล่าครับ”
“ครับผม...อยู่นี่ครับ กำลังจะอาบน้ำ” อาบน้ำ...ได้ยินคำนี้ รู้สึกเสียววาบที่หัวควย อะไรจะโชคดีป่านนั้น พงศ์ดนัย ผมเดินไปตามเสียงที่ดังมาจากหลังบ้าน ก็ได้พบกับภาพอันชวนสยิว ก็พี่อาวุธ นุ่งกางเกงในตัวเดียวกำลังจะอาบน้ำ แกหันมาทางผม
“พงศ์นั่นเอง มาอาบน้ำเหรอ”
“เปล่าครับพี่ ผมอาบมาจากโรงบาลแล้ว พอดีวันนี้คนไม่เยอะ ตั้งใจว่าจะมานั่งคุยเป็นเพื่อนพี่ ไม่ทราบว่าวันนี้พี่งานพัก งั้นผมไม่รบกวนหละพี่” อันที่จริงพูดตามมารยาทเฉย ๆ หวังจะให้แกบอกว่าไม่เป็นไร แต่ถึงแกไม่พูดอย่างนี้ผมก็คงหาทางอยู่คุยจนแกอาบน้ำเสร็จนั่นแหละ สวรรค์กำลังรออยู่ข้างหน้า เรื่องอะไรจะหนีไปง่าย ๆ และเหตุการณ์ก็เป็นไปอย่างที่ผมตั้งใจจะให้เป็น เมื่อพี่อาวุธพูดขึ้น
“ถ้าไม่รีบไปเฝ้าไข้ ก็อยู่คุยกันก่อนก็ได้ ไม่ถือว่าเป็นการรบกวนหรอก ขอพี่อาบน้ำก่อน แล้วจะเปิดหนังเอ็กซ์ให้ดู พอดีวันนี้พี่สิน คนที่มาเปลี่ยนเวรกับพี่วันนี้นั่นแหละ แกได้หนังใหม่มา เป็นหนังไทยในแนวที่พี่ชอบซะด้วย แกบอกว่านางเอกโคตรน่ากินเลย”
พอผมได้ยินว่าพี่แกจะดูหนังเอ็กซ์ ผมแทบจะร้องไชโยออกมาดัง ๆ ก็แหมผู้ชายดูหนังเอ็กซ์ อะไรที่ว่ายากมันก็คงจะง่ายเข้า ยิ่งถ้ามีเหล้าเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแล้ว สวรรค์ชัด ๆ เลย พงศ์ดนัยเอ๊ย
“ดีเลยพี่ งั้นพี่รีบอาบน้ำเถอะครับ” นับเป็นโชคของผมอย่างมากเลย ที่พี่วุธไม่ได้อาบน้ำในห้องน้ำ ที่อาบน้ำของแกจะแยกจากห้องน้ำ โดยใช้โอ่งลายมังกรรองน้ำจากก๊อก และก็อยู่มุมหลังบ้านติดกำแพงรั้ว ถ้าไม่ตั้งใจมาก็จะมองไม่เห็น พี่อาวุธตักน้ำในโอ่งราดตัว ผมเดินไปยืนใกล้ ๆ แก เพื่อจะได้มองเป็นชัด ๆ และก็ถามนั่นถามนี่ไปเรื่อย ๆ ส่วนสายตาก็มองสำรวจเรือนร่างของแกด้วยความเสน่หา พี่อาวะรูปร่างดีมาก ไม่ได้ตัวใหญ่เหมือนน้องคำพัน ผิวคล้ำเหมือนกรรมกรทั่ว ๆ ไป แขน-ขาดูใหญ่ ยิ่งตรงแขนดูเส้นเอ็นขึ้นปูดโปนและมีรอยแผลเป็นเล็ก ๆ เต็มไปหมด ต้นขาของแกก็ดูอวบใหญ่ เหมือนคนที่ต้องใช้กำลังขาอยู่ตลอดเวลา มองไปที่กลางลำตัววันนี้แกนุ่งกางเกงในสีเทา และคงใช้งานมานานแล้วเพราะมันดูเก่าจนยางยืดที่หัวและที่ขายืดหมดแล้ว และยังมีรูขาดอีกหลายรู ยามมันเปียกน้ำ มันจึงแนบกับลำตัว มองเห็นท่อนควยได้ชัดมาก และท่อนควยของแกที่ซ่อนอยู่ภายใต้กางเกงในตัวเก่านั้นคงใหญ่น่าดู ยามแกตักน้ำราดตัว ยางที่รัดตรงหัวกางเกงในถูกรั้งลงมาจนแทบหลุด ถ้าไม่มาติดที่ท่อนควยแกไว้ เวลาที่แกฟอกสบู่มือแกรั้งกางเกงในลงไป จนมองเห็นกลุ่มหมอยที่ดกดำ แถมขากางเกงก็กว้างจนมองลอดเข้าไปเห็นกะโปกพวงใหญ่แกว่งไกวไปมา ผมมองแกอาบน้ำด้วยความเพลิดเพลิน จนแกอาบเสร็จ
“ไป...ขึ้นไปบนบ้านกัน” ผมเดินตามพี่อาวุธขึ้นไปบนบ้าน ข้างบนไม่ได้กันห้อง ไม่ว่าจะเป็นห้องแต่งตัว ห้องนอน หรือห้องดูทีวีจะอยู่ในห้องเดียวกัน ส่วนที่นั่งเล่นของแกจะอยู่ที่ใต้ถุนบ้าน “บ้านรกหน่อยนะพงศ์ บ้านคนโสดก็อย่างนี้แหละ ความจริงบ้านนี้เป็นบ้านพักครู แต่เนื่องจากว่าอาจารย์ที่สอนอยู่ที่นี่ต่างก็มีบ้านก้นหมดแล้ว มันจึงถูกปล่อยร้างไว้หลายปี ตอนพี่มืทำงานที่นี่ใหม่ ๆ ท่าน ผอ.จึงซ่อมแซมให้พี่อยู่ จะได้ประหยัดค่าเช่าบ้าน”
“แล้ว...พี่ยังไม่มีครอบครัวเหรอครับ”
“อ๋อ มีแล้วครับ มีลูกสองคนแล้ว บ้านพี่อยู่ที่อำเภอภูเรือ”
“พี่ไม่เอาเมียกับลูกมาอยู่ด้วยหละครับ”
“มาไม่ได้หรอก เพราะที่บ้านมีสวนลิ้นจี่ และก็ทำไร่นาสวนผสมด้วย เขาต้องดูแลทางโน้น พี่อยู่ที่นี่ก็เก็บเงินเดือนไว้ พอถึงฤดูเก็บเกี่ยว หรือตัดแต่งกิ่งรวมถึงเรื่องอื่น ๆ ก็ได้อาศัยเงินเดือนของพี่นี่แหละ เป็นค่าจ้างแรงงาน ส่วนเงินที่ขายผลผลิตได้ก็เก็บฝากธนาคารไว้ทั้งหมด ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพแต่ละวันของที่บ้านก็เจียดจากเงินเดือนของพี่เหมือนกัน”
“ว้า..อย่างนี้แล้วเมื่อไหร่พี่ถึงได้กลับบ้ายหละครับ”
“ก็ตอนสิ้นเดือนครับ” พี่อาวุธคุยไป พลางเปิดซีดีไปด้วย ตอนนี้แกเปลี่ยนจากผ้าขนหนูที่นุ่งมาจากข้างล่าง เป็นผ้าขาวมา และผมก็สังเกตว่าแกไม่ได้นุ่งกางเกงใน
“พี่คงเหงาน่าดูเลยนะ”
“มันก็มีบ้าง บางทีเหงามาก ๆ พี่ก็ได้สิ่งนี้แหละเป็นเพื่อน” พี่อาวุธเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบขวดโค๊กที่มีน้ำสีแดงเข้ม เทลงแก้วยกขึ้นดื่ม แล้วทำหน้าเบ้
“อะไรพี่”
“ยาดวงเหล้า เสือสิบเอ็ดตัว กินแล้วปึ๋งปั๋งน่าดู” พูเสร็จก็เทใส่แก้วยกขึ้นดื่มอีก “กินไอ้นี่แล้วเลือดลมมันสูบฉีดแรงดีแท้ เอาซักหน่อยมั๊ย”แกเทใส่แก้วส่งให้ผม ผมยกขึ้นจิบดู มันออกหวานนิด ๆ แต่ก็ยังคงความแรงของดีกรีเหล้าขาวอยู่ ผมยกขึ้นดื่มจนหมด รู้สึกร้อนคอวาบ ตอนนี้หนังที่จอทีวีเริ่มไตเติ้ลแล้ว
“นอนดูก็ได้นะพงศ์” พี่อาวุธลากฟูกเก่า ๆ มาให้ผมนอน ส่วนตัวแกยังคงนั่งก๊งเหล้าอยู่ใกล้ ๆ ผมล้มตัวลงนอน รู้สึกถึงกลิ่นตัวสาบ ๆ ของพี่อาวุธที่ยังคงติดอยู่ที่หมอน และที่ฟูกนั้น ตอนนี้ต่อมเซ็กส์ของผมเริ่มทำงานอีกแล้ว และที่จอทีวีหนังก็กำลังดีทีเดียว นางเอกกำลังดูดควยพระเอกอย่างเอาเป็นเอาตาย ผมเหลือบมองไปทางพี่อาวุธ เห็นเหล้าพร่องไปเกือบครึ่งขวด และรู้สึกว่าแกเริ่มเมาแล้ว เพราะรู้สึกว่าแกวิพากวิจารณ์หนังได้อย่างออกรส ตอนนี้แกเลิกกินเหล้าเหล้าหันมาจ้องหนังตาเขม็ง และแกก็ล้มตัวลงนอนข้าง ๆ ผม โดยหนุนหมอนใบเดียวกับผมด้วย เนื่องจากฟูกก็ไม่ได้มีเนื้อที่เยอะเท่าไหร่ ผมกับพี่แกจึงนอนเบียดเสียดกัน แขนของพี่อาวุธจึงเสียดสีกับแขนของผม ผมรู้สึกถึงความสากของท่อนแขนของแก
“นางเอกหีใหญ่ซิบหายเลย อย่างนี้ได้ซักทีจะเย็ดทั้งวันทั้งคืนเลย” พี่แกวิจารณ์ไป ส่วนมือก็ลูบไล้อยู่ที่ควย และเมื่อ แกหยุดลูบ ผมก็รู้สึกว่าผ้าขาวมาของแกจะตุงขึ้นอย่างมาก ผมจ้องมองพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคอ
“พี่เงี่ยนเหรอครับ”
“ฮื่อ..น้ำไม่ออกมาสองวันแล้ว ยิ่งได้เจ้ายาดองนั่นเข้าไป ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่เลย”
“ผมว่าวันนี้ถ้าไม่มีผมอยู่ด้วย พี่ต้องดูไปด้วยชักว่าวไปด้วยแน่นอนเลย”
“มันของตายอยู่แล้ว ผู้ชายร้อยทั้งร้อยเวลาดูหนังเอ็กซ์คนเดียวต้องชักว่าวตามแน่นอน”
“ที่จริงถึงผมอยู่ด้วยพี่ก็ชักว่าวได้นี่ครับ ไหนขอดูหน่อยพี่ ผมเห็นผ้าขาวม้าพี่ตุงมาก ควยพี่คงใหญ่มากเลย” ผมไม่รอแกอนุญาตให้โง่หรอก ผมเอื้อมมือไปดึงผาขาวม้าแกออก พอผ้าขาวม้าหลุด ควยดุ้นใหญ่ก็ปรากฏแก่สายตาของผม มันนอนแนบกับหน้าท้อง ชี้หัวไปทางสะดือ ด้วยความยาวของมันส่วนหัวควยของแกยาวเลยสะดือขึ้นไป ความใหญ่ไม่ต้องพูดถึงประมาณว่าเกือบเท่าข้อแขนของผม ตามลำควยสีคล้ำมองเห็นเส้นเอ็นขึ้นปูดโปน กะโปกพวงใหญ่อัดแน่นจนเต็มหว่างขา ไข่ใบเขื่องทั้งสองใบวิ่งขึ้น-ลง ตามแรงหายใจของแก ขนหมอยสีดำเข้มปกคลุมจนดูดำไปหมด มืออันสั่นเทาของผมเอื้อมไปกำควยท่อนใหญ่ไว้ มันใหญ่จนมือผมกำไม่รอบ แข็งเหมือนท่อนไม้ดี ๆ นี่เอง
“ควยพี่แข็งมากเลยพี่ สงสัยมันคงอยากมุดถ้ำมาก แต่เสียดายเนอะแถวนี้ไม่มีถ้ำให้มุด” พูดไปมือที่กำควยอยู่ก็ถอกไปด้วย ส่วนพี่อาวุธทั้งกระเด้าสวนขึ้น ทั้งซี๊ดปาก
“ซี๊ด...มีสิ...ทำไมจะไม่มี”
“ไหนหละพี่”
“ก็ถ้ำของพงศ์ไง”
“พูดเป็นเล่นไป ว่าแต่พี่จะเข้าจริง ๆ หรือเปล่าหละ” สิ้นคำของผมพี่วุธ พลิกตัวขึ้นมาทับที่ตัวของผม พร้อมกับดึงเสื้อผ้าผมออกจากตัวอย่างรวดเร็ว จนผมเหลือแต่ตัวล่อนจ้อน เหมือนกับตัวแก จากนั้นแกก็เริ่มจูบไซ้ไปตามตัวของผม ฝ่ามืออันหยาบหนาและร้อนผ่าวของแก กึ่งลูบกึ่งบีบขยำไปตามเนื้อตัวของผม ความสากของฝ่ามือแก เพิ่มความซ่านเสียวให้ผมเป็นทวีคูณ ผมรู้สึกเสียวมาก แต่ก็ดัดจริตถามแกไปด้วยน้ำเสียงที่ตะกุกตะกัก
“พะ..พพ..พี่..วู..พี่วุธ อะ..เอาจริง เหรอ..ครับ..”
“จริงสิครับ พี่เคยเป็นหทารเกณฑ์ เป็นทหารพรานมาก่อน เรื่องแบบนี้พี่ผ่านมาหมดแล้ว พี่รู้ว่าพงศ์คิดยังไงกับพี่ พี่เริ่มสงสัยตั้งแต่พงศ์พาสองหนุ่มนั่นมาอาบน้ำแล้วหละ”
“เกลียดนัก คนรู้ทัน” ผมค้อนให้พี่วุธวงใหญ่ พร้อมกับตีที่ก้นแกสองสามที เป็นเหตุให้แกกดสะโพกลงมา และตอนนี้ควยท่อนใหญ่ของแกก็เสียดสีอยู่กับท่อนควยใหญ่ของผม ขนหมอยหยาบของแก เบียดเสียดอยู่บริเวณหัวเหน่าของผม ตอนนี้พี่วุธจูบไซ้อยู่บริเวณซอกคอของผม หนวดเคราสาก ๆ ของแกทิ่มตำอยู่ตามซอกคอของผม เพิ่มความเสียวซ่านอีกเท่าตัว พี่วุธเสือกตัวขึ้นไปเรื่อย ๆ ตอนนี้ ควยใหญ่ของแกขึ้นทิ่มตำอยู่ตรงปากและคางของผม บางทีหัวถอกอันบานใหญ่ก็ชนกับจมูกของผม ได้กลิ่นคาวนิด ๆ ของน้ำควยที่ซึมเยิ้มอยู่ตรงปลายถอก มือขวาของผมกำท่อนควยไว้ ส่วนมือซ้ายก็ขยำอยู่ตรงกะโปกพวงใหญ่ พี่วุธโหย่งตัวขึ้นเหมือนรู้งาน ผมใช้ลิ้นเลียวนไปตามหัวควย ขบกัดที่เงี่ยงค่อนข้างแรง จนพี่แกดึงตูดหนี แต่ก็กดลงมาใหม่ ผมลากลิ้นไปตามลำควย และดูดไข่ใบเขื่องทั้งสองลูกสลับกัน และก็ลากลิ้นเลียไปตามลำควยขนถึงหัวถอกอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับอ้าปากอมควยใหญ่ไว้และเริ่มต้นดูด ส่วนพี่อาวุธกดตูดกระเด้าปับ ๆ
“อูย..เสียวควยจัง พงศ์ดูดดีมากเลย แรง ๆ ครับ อย่างนั้นแหละ เสียวหัวควยจังเลย” ปากของผมดูดควยแกไปเรื่อย ๆ ส่วนพี่วุธก็กระแทกควยใหญ่ใส่ปากผม สักพัก จึงโหย่งตัวขึ้นดึงควยออก และแกก็จับผมนอนคว่ำลง จับเอวผมดึงขึ้น ผมรู้ว่าแกจะทำอะไร จึงแอ่นตูดขึ้น พี่วุธแบะขาผมออก พร้อมกับเอาน้ำลายใส่มือมาลูบที่รูตูดผม
“พงศ์แบะขาออกอีกนิดหนึ่งนะจ๊ะ พี่จะเอาควยใหญ่กระแทกแล้ว”
“ได้เลย ครับพี่ เสียบควยลงมาเลย ผมพร้อมแล้ว” พี่วุธกดตูดดันควยเข้า ตอนนี้ควยท่อนใหญ่ค่อย ๆ ครูดรูตูดผม เข้าไปเรื่อย ๆ ผมเสียววาบ ๆ พี่วุธกดควยเข้าจนมิด ผมทั้งตึงแน่น ทั้งเสียว เมื่อควยเข้ามิดลำแล้ว พี่วุธเริ่มกระเด้า ค่อนข้างแรง การกระเด้าของแกแต่ละครั้ง มันทำให้ตัวของผมเสือกไปข้างหน้า จนหัวผมมาชนกับประตู ผมจึงถอดกลอนเปิดมันออก
“เปิดออกเลยพงศ์ ตรงนี้อยู่ติดถนน ไป...พี่จะพาพงศ์ไปยืนเย็ดกันตรงระเบียง” ผมไม่ได้คัดค้านการกระทำของพี่วุธ แต่รู้สึกอยากลองดู พี่วุธดึงตัวผมให้ยืนขึ้นโดยที่ไม่ถอดควยออก แกดันตัวของผมให้เดินออกไปข้างนอกห้อง มองลงไปข้างล่างห่างไม่ไม่เกินยี่สิบเมตร จะเป็นถนน มีรถวิ่งไปมาตลอดเวลา ผมยืนโก้งโค้งเกาะราวระเบียง แอ่นตูดให้พี่วุธกระแทกควยเข้าตูด เสียงดังผับ ๆ แสงไฟจากเสาไฟฟ้าข้างทางส่องมากระทบตัวเราสองคน ถ้าคนที่อยู่ในรถหยุดรถแล้วมองขึ้นมาก็จะรู้ว่าเรากำลังยืนเย็ดกันอยู่ แต่ทั้งผมและพี่วุธกลับไม่รู้สึกกลัวคนเห็น หรือถึงเห็นก็ไม่รู้สึกอาย แถมยังรู้สึกเสียวมากขึ้นกว่าเดิม เรายืนเย็ดกันตรงระเบียงจนหนำใจแล้ว จึงชวนกันเข้าไปในบ้าน พี่วุธถอดควยออก แล้วดันตัวผมไปพิงฝาผนัง แกจับขาซ้ายของผมห้อยไว้ที่แขนขวาของแก จากนั้นแกก็ย่อตัวลง จับควยจ่อแล้วกดสะโพกดันควยเข้ามา เมื่อควยเข้าจนมิดแล้ว แกจึงเริ่มกระเด้า
“อูย...ตูดพงศ์ฟิตแน่นดีจัง พี่เสียวหัวควยมากเลย บางทีเย็ดหีก็ไม่เสียวขนาดนี้” พูดเสร็จพี่วุธก็ประกบปากลงมาที่ปากผม ลิ้นอันชำนาญงานของแกก็ซอกซอนเข้ามาในปากของผม ผมอ้าปากรับ เราแลกลิ้นกันอย่างซ่านเสียว ส่วนตูดของแกก็กระเด้าควยเข้าตูดผมทั้งแรงและเร็ว ผมรู้สึกเหมือนน้ำจะแตก สองมือบีบขยำอยู่ตรงแก้มก้นของแก
“พีวุธ กระเด้าแรง ๆ ครับ ผม..ผมจะเสร็จแล้วครับ ผมไม่ไหวแล้วครับ อูย ..โอ๊ย..เส..เสร็จแล้วครับ น้ำ..น้ำผมออกแล้ว” และน้ำควยของผมก็พุ่งออกมากระทบกับหน้าท้องของพี่วุธอย่างแรง ส่วนพี่วุธก็คงเต็มทนเหมือนกัน แกเร่งซอยบั้นเด้ายิก ๆ มือสากของแกก็บีบขยำอยู่ที่แก้มก้นของผม จนรู้สึกเจ็บ
“พงศ์ พี่..พี่ก้อ..พี่ก็ไม่ไหวแล้ว เสียว..เสียวมากเลย น้ำเย็ดพี่จะออกแล้ว โอ๊..ออกแล้ว พงศ์นอนลง” ผมไม่ทันได้คิดว่าแกให้ผมนอนลงทำไม แต่ผมก็ทำตามอย่างว่าง่าย พอผมนอนหงายลงที่พื้นห้อง แกก้าวขายืนคร่อมตัวผมไว้ มือแกก็ชักควยยิก ๆ แกหลับตา แหงนหน้าซี๊ดปาก ในขณะที่น้ำควยของแกพุ่งออกมา เลอะตามตามของผม เมื่อเห็นว่าน้ำควยของแกออกหมดแล้ว ผมจึงดึงตัวขึ้น คว้าควยแกเข้าปาก ดูดดุนจนเกลี้ยง พี่วุธล้มตัวลงนอนกอดผมไว้แน่น
“ขอบใจมากนะพงศ์ ขอบใจจริง ๆ พี่เสียวมากเลย พงศ์ทำให้พี่มีความสุขมาก ผมกอดตอบแก แล้วเราก็จูบกันอย่างดูดดื่มอีกครั้งหนึ่ง แล้วผมก็โดนพี่วุธเย็ดอีกครั้ง อูย...เสียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น